คุณผู้ชม! แบไต๋บุกกลับมาอีกครั้ง วันนี้ผมหนุ่ย พงศ์สุข พาทุกคนบุกมาถึงจังหวัดระยอง มาเยี่ยม ๆ มอง ๆ โรงงานเอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) แล็บผลิตหลังคาเมทัลชีทมาตรฐานระดับโลกของ BLUESCOPE Zacs (บลูสโคป แซคส์)

ถ้าพูดถึงเมทัลชีท หลาย ๆ คนก็พอจะรู้จักและเคยได้ยินชื่อกันมาบ้าง ว่าเป็นแผ่นเหล็กเคลือบทั่วไป ที่เราเห็นกันบนหลังคาบ้าน นี่เลยคุณผู้ชม หลังคาสถานี MRT ยังใช้เลย

กลุ่มบ้านเมทัลชีทเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเพราะว่าคุณสมบัติทนทาน ออกแบบได้ตามต้องการ ปรับทรงปรับโค้ง รอยต่อของแผ่นหลังคาน้อย เรียบเนียนมาก ต่างจากหลังคากระเบื้องที่พอเอามาเรียงต่อกันโอกาสที่จะรั่วซึมก็มีมากกว่า

ผลิตตามมาตราฐานโลก

วันนี้ครับผมได้โอกาสพาคุณผู้ชมมาโรงงานบลูสโคป สิ่งที่คุณจะได้เห็นก็คือกระบวนการผลิตระดับโลกว่าเขาทำกันยังไง และล่าสุดเขาร่วมเสริมแกร่งกับ NIPPON STEEL ทำให้ปัจจุบันแผ่นเททัลชีทแบรนด์บลูสโคป แซคส์ ได้รับการผลิตตามมาตราฐานโลก ด้วยเหตุผลหลัก ๆ คือ

  1. เมทัลชีทของบลูสโคป แซคส์ ผ่านการเคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสี ซึ่งผลการวิจัยเคลมว่ามีความทนทานและต้านทานการกัดกร่อนได้ดีกว่าเหล็กเคลือบสังกะสีถึง 4 เท่า
  2. เมทัลชีทของบลูสโคป แซคส์ ต้องผ่านการทดสอบ ‘ความทนละอองน้ำเกลือ’ หรือ Salt Spray Test ปีละ 1 ครั้งเพื่อยืนยันชั้นเคลือบของสินค้าที่ผลิตออกมา

ซึ่งการทดสอบนี้เป็นมาตรฐานที่ทั่วโลก เพราะฝนที่ตกในแต่ละพื้นที่ ยิ่งยุคนี้บอกเลยว่าปนเปื้อน เพราะฉะนัั้นต้องมีกระบวนการทดสอบ ใช้กันทั้งออสเตรเลีย อเมริกา ญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทย จึงกลาวได้ว่า บลูสโคป แซคส์ เป็นหลังคาเมทัลชีทที่ได้มาตรฐานระดับโลก

Salt Spray Test หรือ ความทนละอองน้ำเกลือ

วันนี้ผมมาถึงโรงงาน เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) ทั้งที อยากให้คุณผู้ชมมาเห็นไปด้วยกันเลย กระบวนการทดสอบ ‘ความทนละอองน้ำเกลือ’ หรือ Salt Spray Test น่าดูมาก ๆ ครับ

จากการเดินทัวร์โรงงานก็ทำให้เราเห็นชัดกับตาว่าแท้จริงเมทัลชีทก็คือผลิตภัณฑ์เหล็กเคลือบ แน่นอนว่าความเป็นเหล็กก็ต้องคู่กับสนิมอาจเกิดขึ้นได้จากการกัดกร่อน

นี่เลยครับต้องมีเครื่องทดสอบความทนทานละอองน้ำเกลือ หรือ Salt Spray Test ซึ่งเปิดมาก็จะมีละอองน้ำเกลือวนอยู่ ในหนึ่งรุ่นเขาตรวจถึง 3 แผ่นเลยเพื่อนยืนยันคุณภาพว่าจะทนต่อการกัดกร่อนซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากฝนจากแดด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องมุงหลังคา ต้องสู้ฝนสู้แดดเป็นระยะเวลายาวนานหลายปี ซึ่งนี่ก็รับประกัน 12 ปี

คุณผู้ชมอยากจะบอกว่านี่คือสิ่งที่เป็นเงื่อนไข เพราะเหตุใดผลิตภัณฑ์ บลูสโคป แซคส์ ที่นี่จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานระดับโลกได้ เพราะว่าผ่านกระบวนการทดสอบนี่แหละครับ เดี๋ยวเราไปดูผลลัพธ์กันดีกว่าระหว่าง บลูสโคป แซคส์ กับ เมทัลชีท ทั่ว ๆ ไป

ผลการทดสอบ Salt Spray Test

นี่คือสิ่งที่ผ่านการทดสอบแล้ว ไม่ใช่เคสมือถือ ! คุณผู้ชมครับนี่แหละครับ Salt Spray Test ที่เราเห็นไปสักครู่นี้ พอผ่านจำนวนตั้งแต่ 150 ถึง 500 ชั่วโมง ไม่สามารถถูกกัดกร่อนโดยสนิมได้เลย กากบาทที่เขาขีดก่อนจะเข้าไปเทสต์เพื่อหวังว่าละอองน้ำเกลือจะกัดกร่อนเข้าไป ปรากฎว่าทำอะไรไม่ได้

แต่ทั้งนี้คลังบลูสโคปก็ไม่ได้หยุดการวิจัยพัฒนาไว้แค่นี้ ล่าสุดก็เลยมีการร่วมมือกันกับ ศูนย์พัฒนาและวิเคราะห์สมบัติของวัสดุ โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (วว.)

นี่คือแผ่นเมทัลชีท บลูสโคป แซคส์ 1,500 ชั่วโมง กับ แผ่นเมทัลชีททั่วไปสภาพขึ้นสนิม และ สังกะสีขึ้นสนิม 500 ชั่วโมง

คุณผู้ชมคงพอทราบนะว่าที่นี่เขาสร้างมาตรฐานเพื่อให้ได้ระดับโลก อย่าง JIS ของญี่ปุ่น ASTM ของอเมริกา และ AS ของออสเตรเลีย ไปจนถึง มอก. จากประเทศไทย ก็มีข้อกำหนดทำให้สมบูรณ์แบบได้ และยังมีการทดสอบอย่างอื่นเช่น QUV Test หรือการทดสอบแสง ซึ่งสามารถสร้างการกัดกร่อนให้กับสีได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ยังสีใสอยู่ได้เมื่อผ่านไป 2,000 ชั่วโมงแล้ว

และที่ผมชอบมาก Exposure Test เขาวางไว้กลางแดดจริง ๆ คุณผู้ชมดูนะแผ่นนี้ผ่านไป 10 ปี

#beartai บุกวันนี้เราได้เห็นขั้นตอนการผลิตรวมถึงการทดสอบ Salt Spray Test ที่ทำให้โรงงานผลิตเมทัลชีท บลูสโคป แซคส์ ได้รับมาตรฐานรับรองระดับโลกกันไปแล้ว แต่ยังไม่หมดแค่ตอนนี้ครับ

ตอนหน้ายังมีการทดสอบที่เข้มข้นยิ่งขึ้น กับการทดสอบ Reverse Impact รวมทั้งพูดคุมกับคุณ อมร ธารพิพิธชัย ผู้จัดการฝ่ายเทคนิคของ บริษัท เอ็นเอส บลูสโคป (ประเทศไทย) จำกัด ที่ต้องตอบทุกข้อสงสัยกับเมทัลชีท รอดูกันได้เลย !

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส