ในที่สุด​ The Last​ of Us ภาคสองก็ออกมาให้เราเล่นกันได้ซะที​ ซึ่งเชื่อว่าคงมีแฟนเกมหลายคนที่โจ้เกมนี้แบบระห่ำรวดเดียวจบ​ ประหนึ่งซอมบี้หัวเห็ดกระหายเนื้อที่รุมทึ้งเหยื่อแบบในเกมแหง ๆ ก็แหม​ อัดอั้นมานานจากการนั่งรอเกือบ​ 7​​ ปี​นี่นา​ ไหนจะต้องทนกับโรคเลื่อนสองรอบ​ และหลบสปอยล์เนื้อเรื่องกันจนเหนื่อยอีก จะใส่กันแบบไม่ยั้งตั้งแต่วันเกมออกมันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้​… 

แต่พอเผลอเล่นจบไปแล้วยังไงต่อดีล่ะ? เจอเกมเนื้อเรื่องเด็ดระดับนี้เข้าไปเป็นใครก็คงเกิด​อาการ​ “​อารมณ์ค้าง” จนต้องการหาเกมเนื้อเรื่องสนุก ๆ​ เกมต่อไป​มาเติมเต็มช่องว่างที่หายไป​ (ว่าไปนั่น)​ สำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาในลักษณะนี้​​ วันนี้เราขอจัดยาแรงให้คุณด้วยเกมบล็อกบัสเตอร์เนื้อเรื่องดีๆ​ อีก​ 10 เกมรวด​ ให้คุณได้เสพย์เรื่องราวเกรด​ A​ กันไปอีกยาว ๆ​ จนฟินปนเอียนกันไปข้าง​ รับรองว่ารักษาอาการอารมณ์ค้างชะงัดนักแล! 

ปล.​ บทความนี้มีสปอยล์นิด ๆ​ หน่อย ๆ​ นะจ๊ะ​ 

อันดับ​ 10: Starcraft 2: Heart of the Swarm

มหาสงครามจักรวาล​ ศึกดับแค้นราชินี​ Zerg

หลายคนอาจจะงงว่าทำไมลิสต์เกมเนื้อเรื่องดีถึงเปิดมาด้วยเกม​ RTS​ กันล่ะ? นั่นก็เพราะนอกจากเรื่องเกมเพลย์และงานดีไซน์ด่านระดับเทพ​ Heart​ of the Swarm ยังมาพร้อมกับเนื้อเรื่องที่สนุก​ ตื่นเต้น​ น่าติดตาม​อย่างไม่น่าเชื่อ​ เกมเล่าเรื่องราวของของ​ Kerrigan​ บนเส้นทางการหวนคืนสู่บัลลังก์ราชินีแมลงอวกาศ​ เพื่อล้างแค้นจักรพรรดิทรราชย์​ Mengsk ที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้​ มันเต็มไปด้วยส่วนผสมของการผจญภัยตะลุยอวกาศ​ สงครามไซไฟระดับจักรวาล​ และความขัดแย้งในตัวนางเอก​ว่าเธอจะยอมสังเวยความเป็นมนุษย์ให้แก่ไฟแค้นหรือไม่​ ​ซึ่งเกมยังรู้จักสลับการเล่าเรื่องไปมาระหว่างกราฟิกเอนจิ้นกับคัตซีน​ CG งาม ๆ​ เป็นครั้้งคราว​ ทำให้ Heart​ of the Swarm เป็นตัวอย่างชั้นดีที่ทำให้เรารู้ว่าเนื้อเรื่องดี ๆ​ ก็มีอยู่ในเกมแนววางแผนการรบได้เช่นกัน

อันดับ​ 9: Gears 5

ภาคต่อของเกมแอ็คชั่นยิงแหลกที่มาเหนือความคาดหมาย

เกมเมอร์ที่เคยผ่านแคมเปญของ​ Gears​ of War 4 มาแล้ว​ คงจะรู้ว่าถึงแม้ภาพในเกมจะสวย​ เกมเพลย์ก็มันส์ใช้ได้​ แต่เนื้อเรื่องนี่เรียกได้ว่าแค่พอถูไถ​ มีไว้เพื่อให้อัดฉากแอ็กชันได้เนียน ๆ​ ก็เท่านั้น​ ใครมันจะไปรู้ว่าพอ​ Gears​ 5 มาถึง​ มันกลับจัดหนักจัดเต็มทั้งความมันส์แบบเต็มพิกัด​ และความเข้มข้นของเนื้อเรื่องแบบคาดไม่ถึง​ ผู้เล่นจะได้ผจญภัยไปตามสมรภูมิงาม ๆ​ หลายแห่งบนดาว​ Sera ในขณะเดียวกันก็ได้ร่วมเดินทางไปกับนางเอก​ในเส้นทางการค้นหาปูมหลังครอบครัว​​ที่อาจไปมีเอี่ยวกับต้นกำเนิดของเผ่า​ Locust จนทำให้เริ่มผิดใจกับพระเอกจากภาคก่อน เส้นทางที่เต็มไปด้วยปมปริศนา​ ความขัดแย้ง​ของตัวเอก​ และการสูญเสียจากไฟสงคราม​ ทั้งหมดนี้จะทำให้พวกเรานั่งอึ้งว่าเกมไซไฟยิงแหลกมันจำเป็นต้องเขียนบทมาดีขนาดนี้เลยเหรอ

อันดับ 8: Hellblade: Senua’s Sacrifice

ดาบชำระบาป​กับนักรบสาววิปลาส

ปกติเส้นเรื่องของเกมแอ็กชันผจญภัยมักจะพาผู้เล่นเดินทางไปยังสถานที่สวยงามต่าง ๆ​ ทั่วโลก​ เพียงเพราะหวังจะขายความอลังการงานสร้างก็เท่านั้น​ มีน้อยเกมนักที่จะพาผู้เล่นเดินทางเข้าสู่สภาพในจิตใจตัวเอกอย่าง​ Hellblade​ เพื่อให้เกมเมอร์ได้สัมผัสเส้นทางการต่อสู้กับโรคประสาทหลอนและความจริงอันโหดร้าย​​ คุณจะได้ตะลุยแหลกไปกับ Senua สู่นรกของชาวไวกิ้ง​ (หรืออาจเป็นแค่ภาพหลอนในหัวของนางเอกเองก็ได้) และต่อสู้กับนักรบปีศาจสารพัด​เพื่อชิงวิญญาณคนรักของเธอกลับคืนมา​​ แต่ที่สำคัญที่สุดคือเกมถ่ายทอดอาการของคนเป็นโรคจิตเภทออกมาได้อย่างสมจริง​ ไม่ต่างกับสิ่งที่ผู้ป่วยจริงบนโลกนี้ต้องประสบอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน​ ทำให้นอกจากความสนุก​ ความอินกับเนื้อเรื่อง​ เรายังได้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ด้วย​ ช่วยล้างภาพผิดๆ​ ที่ว่าคนเป็นโรคจิตมักชอบใช้ความรุนแรงแบบที่เห็นเกลื่อนในหนังฮอลลีวูดได้ดีนักแล

อันดับ 7: A Plague Tale: Innocence

สุสานหิ่งห้อยภาคยุคมืด

หลายคนอาจมองข้ามเกมนี้ไป​ ​เพราะกลัวว่าเรื่องราวของเด็กสองพี่น้อง​ที่ได้รับผลกระทบจากไฟสงครามแห่งยุคมืดจะหดหู่เกินรับไหว แต่เชื่อเถอะว่าเกมนี้มีทั้งช่วงสนุก​ ช่วงระทึก​ และช่วงเซอร์ไพรส์คละเคล้ากันอย่างพอดีๆ​ ไม่ได้มีแต่เศร้าไปวัน ๆ​ (แถมอารมณ์เรื่องยังละม้ายคล้าย​ The​ Last​ of Us มาก)​ ที่สำคัญตัวละครแต่ละตัวยังน่าสนใจ​ น้องนางเอกก็ไม่ได้น่ารำคาญ​ บทสนทนาส่วนใหญ่ก็ดูเป็นธรรมชาติ​ ทำให้เรารู้สึกผูกพันกับสองพี่น้องคู่นี้ขึ้นมาอย่างรวดเรียว​ รวมไปถึงสหายวัยเยาว์หน้าใหม่ ๆ​ ที่พวกเขาเจอระหว่างทางด้วย นอกจากนี้เนื้อเรื่องของเกมยังเข้มข้น​ และโหดจริงอะไรจริง​ แถมยังมีความเป็นแฟนตาซีแฝงอยู่แบบเนียน ๆ​ เมื่อผนวกกับฉากหลังสวย ๆ​ และเกมเพลย์ดี ๆ​ ยิ่งทำให้คุณไม่ควรพลาดนิทานโรคระบาดสายดาร์กฉบับนี้ด้วยประการทั้งปวงครับ

อันดับ 6: Marvel Spider-Man

หนึ่งในภาพยนตร์​ “ไอ้แมงมุม” ที่ดีที่สุด

“สไปเดอร์แมน” มีหนังใหญ่เวอร์ชั่นคนแสดงออกมาถึง​ 7​ ภาค​ แอนิเมชัน​ Into​ the Spider-Verse อีก​ 1 ภาค​ นี่ยังไม่รวมหนังการ์ตูนภาคแยกอีกไม่รู้กี่ภาค​ เยอะขนาดนี้อาจทำให้แฟนหลายคนเริ่มรู้สึกเฝือ​ แต่ถึงอย่างนั้นก็เชื่อเถอะว่าคุณยังอยากเสพย์เนื้อเรื่องของเกม​ Spider-Man​ บนเครื่อง​ PS4​ อยู่ดี​ เรื่องราวของปีเตอร์​ ปาร์คเกอร์ในวัยทำงาน​ ซึ่งถึงแม้เขาจะโตขึ้น​และมีงานมีการทำ​ แต่ชีวิตเขาก็ยังคงยุ่งเหยิงจากการที่ต้องควบทั้งบทฮีโรและมนุษย์เงินเดือน​ ซึ่งโดยรวมแม้เนื้อเรื่องของเกมนี้จะเดินตามขนบของหนังสไปเดอร์แมน แต่มันก็รู้จักบิดให้เกิดความแปลกใหม่ในทุกองค์ประกอบของเรื่อง​ โชว์ให้เห็นปัญหาความสัมพันธ์ในชีวิตส่วนตัวของสไปดี้มากขึ้น​ ทำให้เราอยากเอาใจช่วยพระเอกของเรายิ่งขึ้นไปอีก​ อยากเห็นเขาชนะได้ทั้งตัวร้ายและปัญหาชีวิตทั้งหลายที่ประดังประเดเข้ามาไม่หยุด​ ส่วนตัวกล้าพูดเลยว่าเนื้อเรื่องของเกมนี้ดีเทียบชั้น​ Spider-Man​ 2 ของ​ Sam Raimi และอนิเมชั่นระดับออสการ์อย่าง​ Into​ the Spider-Verse ได้เลยล่ะ 

(อ่านต่อหน้า 2 นะจ๊ะ)

อันดับ 5: Batman: The Enemy Within

นายคือเพื่อนรักหรือศัตรูตลอดกาล? 

เกม​ Batman ของค่าย​ Telltale Games อาจจะถูกเกมเมอร์หลายคนมองข้าม​ เพราะมันไม่ใช่เกมแนวแอ็กชัน​และเนื้อเรื่องของภาคแรก​ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร​ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าทีมนี้เขาไปทำอีท่าไหน​ ถึงได้ทำให้ภาค 2 มันสนุกขึ้นมาแบบหลังเท้าเป็นหน้ามือ​ได้ขนาดนี้​ The​Enemy​ Within​ มาพร้อมกับเส้นเรื่องที่น่าติดตามซะจนหยุดเล่นตอนต่อไปไม่ได้​ มันมีส่วนผสมของฉากแอ็กชันแบบหนังซูเปอร์ฮีโร​ ​ความขัดแย้งที่น่าสนใจระหว่างตัวละคร​ และความดราม่ากระแทกใจแบบจุก ๆ​ ไปเลย​ จุดที่น่าสนใจคือเกมนำเสนอ​ “โจ๊กเกอร์” วายร้ายตลอดกาลของแบตแมนในบทบาทที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้ความสัมพันธ์ของตัวละครสองตัวนี้ซับซ้อนมากกว่าแค่การเป็นศัตรู​ และยังแฝงความดราม่าระดับแม็กซิมัม​ ถึงขนาดทำให้เกมเมอร์ชายชาตรีหลบไปนอนร้องไห้ตอนกลางคืนได้เลย​ แต่ถึงอย่างนั้น… มันก็ยังคุ้มค่ากับการได้เสพย์เนื้อเรื่องระดับนี้อยู่ดีนะ​ อาห์… 

อันดับ 4: Bioshock Infinite

ผ่ามิติทะลุนครลอยฟ้า

หากคุณกำลังมองหาเกมที่มีเนื้อเรื่องสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่สุด​ มีตัวละครพระเอกพระนางที่น่าสนใจ​ และมีจุดหักมุมที่ทำให้คุณต้องอ้าปากค้างได้นานเป็นสิบนาที​ ภาค 3 ของซีรีส์​ Bioshock​ คือคำตอบที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้ในตอนนี้แล้ว​ เกมเล่าเรื่องราวที่เป็นเอกเทศจากภาคหนึ่งและภาคสองโดยสิ้นเชิง​ (ทำให้ถึงแม้คุณไม่เคยเล่น 2 ภาคแรกมาก่อน​ ก็ยังดื่มด่ำกับเนื้อเรื่องภาคนี้ได้)​ คุณคือนาย​ Booker DeWitt ที่รับงาน​ (ลัก)​ พาตัวหญิงสาวชื่อว่า​ Elizabeth ออกมาให้ผู้ว่าจ้างเพื่อล้างหนี้​ ปัญหาคือเธออยู่บนนครลอยฟ้า​ Columbia ที่เต็มไปด้วยพวกเหยียดผิวและคลั่งชาติ​ แถมทุกคนยังพกอาวุธปืนเต็มอัตรา​​ การผจญภัยของคุณในฐานะ​ Booker จะพาคุณฝ่าศึกกลางหาว​ ร่วมการปฏิวัติ​ในสงครามกลางเมือง​ และลุยข้ามมิติในจักรวาลคู่ขนาน​ที่จะทำให้สมองของคุณแทบคิดตามไม่ทัน​ นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่าง​ Booker และ​ Elizabeth ยังจะทำให้คุณอยากเอาใจช่วยให้ทั้งคู่รอดไปจากที่นี่ให้ได้​ โดยไม่ได้รู้เลยว่า​ปมปริศนาสุดท้ายที่รอให้คลี่คลายมันไม่ได้เป็นแบบที่คุณคิด​ Bioshock​ Infinite​ จะช็อคคุณระดับอนันต์แบบชื่อเกม​ และสุดท้าย​ เนื้อเรื่องของมันจะปักหมุดอยู่ในหัวของคุณไปตลอดกาล​ 

อันดับ 3: God of War (2018)

การเดินทางของสองพ่อลูกในแดนเทพนอร์ส

เราอาจติดภาพ​ Kratos​ ในฐานะเทพสงครามผู้เต็มไปด้วยความคลั่งแค้น​ แต่​ Kratos​ ในเกม​ God of War บทใหม่กลับไร้ซึ่งภาพลักษณ์เหล่านั้นโดยสิ้นเชิง​ บัดนี้เขาคือบิดาของลูกชายวัยรุ่นในแดนเทพนิยายไวกิ้ง​ ผู้ต้องการเพียงแค่นำอัฐิของภรรยาผู้ล่วงลับไปโปรยตามคำสั่งเสียก็เท่านั้น​ พร้อมกับพยายามปกป้องลูกชาย​ (ชื่อ​ Boy! เอ้ย! Atreus) และสั่งสอนให้เขาเติบโตเป็นชายชาตรีให้จงได้​ เรียกได้ว่า​ God of War ภาคเครื่อง​ PS4​ ยอมแลกความมันส์โหดระห่ำ​ กับอารมณ์เรื่องที่​ใกล้ชิด​ กินใจ​ และดูเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น​ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเต็มไปด้วยฉากต่อสู้ยิ่งใหญ่อลังการที่ดูทรงพลังยิ่งกว่าภาคก่อนเสียอีก​ ในระหว่างการเดินทางอันยาวนานข้ามภพภูมิต่าง ๆ​ ของเทพนอร์ส​ คุณจะได้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกที่เคย​ห่างเหินกลับมาผูกพันกันจนแน่นแฟ้น​ ได้เห็นลูกชายตัวปัญหาค่อย ๆ​ เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว​ และยังได้เห็น​ Kratos​ ในมุมอ่อนไหวแบบที่เราไม่เคยเห็นกันมาก่อน​ แม้ตามระหว่างการเดินเรื่อง​ ทั้งสองจะยังต้องสู้กับเทพและสัตว์ประหลาดมากมาย​ แต่ประเด็นเรื่อง​ “ครอบครัว” ก็ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของเกมนี้อยู่ดี​ และเมื่อถึงตอนท้ายที่คุณได้เห็นสองพ่อลูกร่วมกันสู้แบบแค่มองตาก็รู้ใจ​ คุณจะรู้สึกฟินจนหัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูกเชียวล่ะ 

อันดับ 2: Red Dead Redemption 2

รังเพลิงสุดท้ายของเสือโจรใจเพชร​ 

สำหรับเกมเมอร์แมน ๆ​ ที่ชื่นชอบหนังแอ็กชันคลาสสิก​แบบที่มีอาชา​คู่ใจ ปืนลูกโม่​ และหมวกคาวบอย​ ต้องห้ามพลาด​ RDR2​ ด้วยประการทั้งปวง​​ เพราะนี่คือหนึ่งในเนื้อเรื่องสไตล์สิงห์แดนเสือที่เขียนได้สนุกเพลิดเพลินและซาบซึ้งกินใจที่สุดแล้ว​ คุณจะได้รับบทเป็น​เสือโจร​ Arthur Morgan สมาชิกคนสำคัญของแก๊ง​ Van Der Linde​ ที่โจษจัน​ ผู้ควบม้าออกปล้นทั้งรถไฟ​ ทั้งธนาคารพร้อมกับสหายโจรร่วมแก๊งในตอนแรก​​ แต่ยิ่งเวลาผ่านไป​ ​​เขากลับยิ่งพบว่าทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา​ และอีกไม่นาน​เสือโจรอย่างพวกเขาก็จะถูกโลกทันสมัยลืมจนหมดสิ้น​ เกมเมอร์จะได้ควบม้าควงปืน​ในบทชีวิตของโจรผู้ยึดมั่นในศักดิ์ศรี​ ได้พบกับความขัดแย้งและการทรยศหักหลัง​ และได้พาพระเอกของเราสู้อย่างไว้ลายบนเส้นทางไถ่บาปครั้งสุดท้ายของชีวิต​ เส้นทางดราม่าโดนใจที่อาจทำให้เกมเมอร์ชายชาตรีน้ำตาเล็ด​ (อีกแล้ว)​​ ซึ่งต่อให้คุณไม่เคยเล่นภาคแรกมาก่อน​ คุณก็ยังสามารถดื่มด่ำกับเนื้อเรื่องในภาคนี้ได้อย่างไม่เสียอรรถรสอยู่ดี

อันดับ 1: The Witcher 3: Wild Hunt

นิทานสายดาร์ก​ที่เต็มไปด้วยเรื่องดราม่าน่าประทับใจ

ใครที่ได้ดูซีรีส์​ “เดอะ​ วิทเชอร์” ใน​ Netflix มาแล้วคงรู้ว่านิทานปรัมปราของนักล่าปีศาจหัวหงอกนายนี้สนุกไม่ใช่เล่น​ แต่ขอบอกเลยว่านั่นมันแค่กระผีกเดียวของความสนุกเต็ม ๆ​ ที่คุณจะได้รับจาก​เกม​ The​ Witcher​ 3 ซึ่งเส้นเรื่องหลักของเกมจะพาคุณเข้าสู่เส้นทางการผจญภัยสุดอลังการ​ของ​ Geralt​ ​​บนภารกิจออกตามหาลูกสาวบุญธรรมและต่อกรกับกองกำลังภูตต่างมิติ​ ” Wild​ Hunt” ก่อนที่มันจะได้ตัวเธอไป​ แต่ดาวเด่นของงานที่แท้จริงคือเรื่องราวของเควสต์ย่อยสั้น ๆ​ ในเกมนี้ต่างหาก​ เนื่องจากแต่ละเควสต์ต่างได้รับการร้อยเรียงเนื้อเรื่องมาเป็นอย่างดี​ ให้ความรู้สึกเหมือนกับได้อ่านนิทานแบบจบในตอนที่มักจะมีจุดหักมุมที่คาดไม่ถึง​ แถมบางเรื่องก็มาแนวตลก​ บางเรื่องก็มาแนวซึ้ง​ และบางเรื่องก็มาแนวเศร้าจิตตกได้อีก​ ทำให้คุณอยากเล่นเกมนี้ต่อไปไม่หยุด​ เพราะอยากรู้ว่าจะมีนิทานสนุก ๆ​ เรื่องไหนให้เจอในหัวมุมข้างหน้า​ แต่ไม่ว่าจะเป็นเส้นเรื่องหลักหรือเส้นเรื่องรอง​ สิ่งที่้เกมนี้มีเหมือนกันก็คือตัวละครที่น่าสนใจ​ บทสนทนาที่เขียน​มาอย่างใส่ใจ​ และโมเมนต์กระแทกใจที่บทจะฟินก็ฟินสุด​ บทจะเศร้าก็เศร้าโคตร​ ทำให้คนเล่นอย่างเราประจักษ์ว่า​เดี๋ยวนี้คุณภาพของเนื้อเรื่องในสื่อเกมก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าบทประพันธ์ตามหนังสือหรือภาพยนตร์ชั้นยอดอีกต่อไปแล้ว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส