นั่งเดากันมานานพอสมควร ในที่สุด EA ก็ยอมเปิดตัวเกมสตาร์วอร์สโค้ดเนม “Project Maverick” ออกมาอย่างเป็นทางการซะที ซึ่งแน่นอนว่ามันคือเกมแนวขับยานอวกาศสู้กันแบบที่หลายฝ่ายเก็งกันไว้ แต่ที่เหนือความคาดหมายก็คือเกม “Star Wars: Squadrons” จะไม่ได้เป็นแค่เกมขับยานสไตล์อาร์เขดขำ ๆ ที่ให้เกมเมอร์บินเล่น ๆ ยิงเล่น ๆ เอามันส์ แต่มันมีทั้งความลุ่มลึก อัดแน่นไปด้วยรายละเอียดปลีกย่อยของยานอวกาศแต่ละลำ และยังให้ความสำคัญกับการใช้กลยุทธ์ในศึกกลางเวหามากกว่าที่คิด ระดับที่เกือบจะออกมาเป็นเกม Microsoft Flight Simulator ภาค Star Wars เลยด้วยซ้ำ (แถมยังรองรับการเล่นกับจอยสติ๊กและแว่น VR ด้วย) เรียกได้ว่าโดนใจทั้งเกมเมอร์หน้าใหม่ที่ชื่นชอบยานสตาร์วอร์ส และเกมเมอร์หน้าเก๋าที่เป็นแฟนเกมซีรีส์ X-wing และ TIE-Fighter ไปแบบเต็ม ๆ
แต่จุดที่น่าสนใจมากก็คือทีมพัฒนาเขาบอกว่ารายละเอียดของยานทุกลำในเกมนี้จะถอดออกมาจากปูมประวัติ (Canon) อย่างเป็นทางการของสตาร์วอร์สล้วน ๆ นั่นหมายความว่ารายละเอียดยานอะไรก็ตามที่ได้รับการระบุเอาไว้ในจักรวาลแห่งนี้ก็จะโผล่มาให้เห็นในเกมนี้ด้วย งั้นเรามาศึกษาลักษณะเด่นของยานรบทั้ง 8 ลำตามเกร็ดสตาร์วอร์สไปด้วยกันดีกว่า ถือว่าเป็นการทำการบ้านให้พร้อมก่อนสตาร์ทเครื่องออกบินในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ไง ว่าแล้วก็ทะยานไปพร้อมกันเลยเสืออวกาศทั้งหลาย!
ฝ่ายกบฏ (Rebel Alliance)
X-wing ยานรบสี่ปีกอเนกประสงค์
ยานสตาร์วอร์สที่น่าจะโด่งดังที่สุดในหมู่แฟน ๆ แล้ว (ถ้าไม่ใช่ลำนี้ก็คงไม่พ้นยาน Millennium Falcon นี่แหละ) มันมีชื่อเล่นตามลักษณะของปีกทั้ง 4 ที่กางออกเป็นรูปตัว X ในยามที่ต้องเข้าปะทะกับยานข้าศึกแบบด็อกไฟต์เต็มรูปแบบ X-wing ที่ปรากฏในช่วงสงครามกลางเมืองระหว่างกบฏและจักรวรรดิมีชื่อเต็มว่า “T-65 X-wing starfighter” ออกแบบและผลิตโดยบริษัท Incom Corporation ที่ตอนแรกหวังจะขายให้ฝ่ายจักรวรรดิใช้เป็นยานรบประจำทัพ เคราะห์ดีที่การเมืองภายในทำให้จักรวรรดิหันไปเลือกใช้ยานซีรีส์ TIE ของบริษัทคู่แข่งแทน (เพราะถูกกว่า) ทำให้ฝั่งกบฏลอบนำดีไซน์ของยานรบสี่ปีกลำนี้มาใช้ถล่มเดธสตาร์ซะเลย
วิศวกรของ Incom ออกแบบ X-wing ให้เป็นยานรบขับไล่ที่ติดอาวุธเต็มอัตรา รองรับการใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ และไม่มีจุดอ่อนใหญ่ใดๆ ให้เสียเปรียบข้าศึก โดย X-wing มีคลังแสงเป็นปืนใหญ่เลเซอร์ 4 กระบอกที่ปลายปีกแต่ละข้าง ช่องปล่อยจรวดโปรตอนตอร์ปิโด และมีเกราะพลังงานสำหรับใช้ปกป้องตัวถังจากเลเซอร์ของยานศัตรู นอกจากนี้ตัวยานยังรองรับการใช้งานกับหุ่น Astromech Droid (เช่น R2-D2) ในฐานะผู้ช่วยนักบิน และยังมาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮเปอร์ไดรฟ์สำหรับการเดินทางไปยังเป้าหมายระยะไกล จุดเด่นที่ว่ามาทั้งหมดนี้ทำให้มันเป็นยานที่เหมาะกับการใช้บินปะทะยานข้าศึก หรือการบินปฏิบัติภารกิจที่กินเวลายาวนาน ทั้งนี้บรรดานักบินมือฉมังยังรู้จักใช้ประโยชน์จากฟังก์ชันหุบปีกกางปีกของ X-Wing ในการเร่งความเร็วยาน หรือหลบหลีกศัตรูเข้าไปในที่แคบอีกด้วย
A-wing ยานซิ่งสายฟ้าเพื่อเสืออวกาศระดับเทพ
ยาน RZ-1 A-wing starfighter ทรงสามเหลี่ยมผลิตโดยบริษัท Kuat Systems Engineering และได้รับการแต่งเครื่องเพิ่มเติมโดยฝ่ายกบฏ เพื่อให้มันเป็นยานรบที่เร็วแรงที่สุดในสมรภูมิ มันได้รับการปรับแต่งให้ติดตั้งเครื่องยนต์แบบ Event Horizon ขนาดมหึมา 2 ตัวไว้หลังห้องนักบิน รวมทั้งเปลี่ยนวัสดุของตัวถังยาน คลังอาวุธ และเครื่องสร้างเกราะพลังงานให้มีน้ำหนักน้อยลง ผลลัพธ์ที่ได้คือยานรบที่รวดเร็วและคล่องตัวสุดขีด ระดับที่แม้นักบินจะมีประสาทสัมผัสเฉียบไวระดับเจไดก็ยังแทบคุม A-wing ไม่อยู่ ซ้ำร้ายการที่ตัวถังยานมีขนาดค่อนข้างเล็กยังทำให้มันไม่มีที่เหลือให้ใช้คู่กับหุ่น Astromech Droid ดังนั้นนักบินส่วนใหญ่ที่จะใช้ A-wing จึงต้องเป็นคนที่มีทักษะด้านการบินสูงและโชกโชนประสบการณ์
ยาน RZ-1 มีคลังแสงเป็นปืนใหญ่เลเซอร์ 2 กระบอกที่ด้านซ้ายและขวาของตัวถัง ซึ่งสามารถปรับแต่งให้หมุนในแนวดิ่งได้ถึง 360 องศา (ทำให้มันสามารถหันปากกระบอกปืนไปยิงยานที่บินจี้ตามมาด้านหลังได้) นอกจากนี้ยังสามารถบรรจุจรวดคอนคัสชันมิสไซล์ได้ถึง 12 ลูก เมื่อประกอบกับโครงยานจากไททาเนียมอัลลอยและแผ่นฝายานดูราสตีล ทำให้มันเหมาะมากสำหรับภารกิจแบบยิงแล้วหนีหรือการรับมือกับยาน TIE ที่มีจุดเด่นด้านความเร็ว อย่างไรก็ตาม A-wing ก็มีชื่อเสียตรงที่มันพังบ่อยมาก ๆ จนทำให้ช่างฝ่ายกบฏต้องปวดหัวกับยานลำนี้ทุกครั้งเมื่อสิ้นสุดภารกิจ
Y-Wing รถถังลอยฟ้ารุ่นอาวุโส
ยาน Y-wing หรือ BTL Y-wing starfighter คือยานทิ้งระเบิดสารพัดประโยชน์ซึ่งผลิตโดยบริษัท Koensayr Manufacturing มีทั้งแบบที่นั่งเดียวและสองที่นั่ง โดยกองกำลังของฝ่ายสาธารณรัฐได้เริ่มนำยานลำนี้มาใช้ครั้งแรกตั้งแต่ยุคสงครามโคลน และ Y-wing ลำที่เหลือรอดก็ได้ตกมาถึงมือฝ่ายกบฏ Rebel Alliance ในสงครามกลางเมืองโค่นล้มจักรวรรดิ ทำให้มันเป็นยานอวกาศในจักรวาลสตาร์วอร์สที่อายุยืนยาวถึง 2 เจเนอเรชัน (ถ้าจะนับให้ถูกเป๊ะ ๆ คือ 3 ยุค เพราะ Y-wing ก็ไปโผล่ในสงครามระหว่างฝ่ายปฐมภาคีและฝ่ายต่อต้านด้วย) ซึ่งสาเหตุหลักก็เป็นเพราะความทนทายาดและความอเนกประสงค์ของยานชนิดนี้นั่นเอง
ถึงแม้รูปร่างและขนาดของ Y-wing จะดูเทอะทะ แต่ยานลำนี้ก็มีความคล่องตัวพอสมควร ถึงจะไม่ได้คล่องตัวขนาด X-wing หรือ A-wing แต่มันก็ทดแทนด้วยคลังแสงอัดแน่นเต็มอัตรา ทั้งป้อมปืนเลเซอร์แฝดที่สามารถหันโจมตีได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ปืนใหญ่เลเซอร์คู่ด้านหน้า 2 กระบอก และคลังเก็บขีปนาวุธที่สามารถบรรจุโปรตอนตอร์ปิโด อิออนตอร์ปิโด หรือระเบิดอิเล็กโตร-โปรตอนก็ได้ ทำให้มันเป็นยานที่ช้าแต่ชัวร์ สามารถบินปฏิบัติภารกิจได้สารพัดแบบ ทั้งการบุกถล่มยานแม่ฝั่งตรงข้าม งานทิ้งระเบิดปูพรมใส่ฐานทัพ และการใช้บินสู้กับยานขับไล่ด้วยกัน อีกเกร็ดที่น่าสนใจก็คือปกติเรามักจะเห็นแต่ Y-wing ในสภาพเปลือยเครื่องยนต์หลังทั้งหมด แต่ที่จริงแล้วตัวยานดั้งเดิมมาพร้อมกับฝาหุ้มตัวเครื่องทั้งลำ เพียงแต่หลังจากที่วิศวกรฝ่ายกบฏต้องถอด ๆ ใส่ ๆ ฝาทุกครั้งที่จบภารกิจ พวกเขาเลยตัดสินใจถอดฝาเครื่องออกไปอย่างถาวรซะเลย เพื่อให้สามารถซ่อมบำรุงยานได้ง่ายขึ้น
U-Wing ยานขนส่งติดอาวุธเต็มอัตรา
ยานขนส่งและสนับสนุนทางอากาศ U-wing มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า UT-60D U-wing starfighter/support craft ผลิตโดยบริษัท Incom Corporation เจ้าเก่าผู้สร้าง X-wing หน้าที่หลักของยานลำนี้ นอกจากจะเป็นการลำเลียงกองกำลังทหารสู่สมรภูมิ มันยังสามารถทำหน้าที่เป็นยานติดอาวุธหนักเพื่อสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดินหรือทัพอากาศได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ความแข็งของตัวถัง เกราะพลังงานรุ่นใหญ่ และการที่มันจุบุคลากรในยานได้เป็นสิบคน ทำให้ U-wing เป็นเหมือนยานขนส่งขนาดกลางมากกว่ายานรบขับไล่ และการที่ตัวยานต้องตีวงเลี้ยวค่อนข้างกว้างทั้งยังทำความเร็วสูงสุดได้เพียง 950 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ยิ่งทำให้มันเหมาะกับการเป็นยานสนับสนุนทัพหลังมากกว่าเอาไปบินยิงสู้กับศัตรูโดยตรง
อาวุธหลักของ U-wing คือปืนใหญ่เลเซอร์ 2 กระบอกรุ่น Taim & Bak KX7 ซึ่งมีพลังทำลายล้างพอสมควร นอกจากนั้นก็มีปืนเลเซอร์ติดขาตั้งตรงประตูยานด้านซ้ายหรือขวา ที่ฝ่ายกบฏนิยมนำมาติดตั้งเอาไว้ยิงสนับสนุนภาคพื้นดิน ทั้งนี้มันสามารถติดตั้งอุปกรณ์กวนสัญญาณสื่อสารยานศัตรูที่ทรงประสิทธิภาพเข้าไปเสริมได้ด้วย ยาน U-wing มาพร้อมกับเครื่องยนต์ไฮเปอร์ไดรฟ์สำหรับการใช้เดินทางด้วยความเร็วแสง อีกจุดเด่นหนึ่งของยานคือปีก S-foils ที่สามารถกางออกไปด้านหลังได้ ซึ่งจะช่วยขยายให้เกราะพลังงานของยานปกป้องตัวถังได้อย่างครอบคลุม และช่วยระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ได้ดีขึ้น แต่มันก็เหมาะใช้งานในสมรภูมิอวกาศหรือระดับชั้นบรรยากาศเท่านั้น เพราะความเทอะทะของปีกทำให้นักบินคุมยานได้ยากขึ้นหากต้องบินฝ่าสภาพอากาศที่เลวร้าย
(อ่านต่อหน้า 2 กับฝ่ายจักรวรรดิ)
ฝ่ายจักรวรรดิ (Galactic Empire)
TIE fighter ดวงตามรณะของทัพอากาศจักรพรรดิ
ยาน TIE fighter มีชื่อเต็มว่า “TIE/ln space superiority starfighter” (ส่วนนักบินกบฏมีชื่อเล่นให้มันว่า “ไอ้ยานลูกตา”) ผลิตโดยบริษัท Sienar Fleet Systems (SFS) ทั้งเสียงและรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ของมัน คือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความได้เปรียบของฝ่ายจักรวรรดิในการครอบครองน่านฟ้าจักรวาล โดยรวมแล้วยาน TIE fighter คือยานรบที่เร็วมากแต่ก็เปราะมาก มันมาพร้อมกับเครื่องยนต์อิออนเอนจิ้นแบบแฝด ที่สามารถปล่อยพลังขับเคลื่อนได้แม่นยำที่สุดในจักรวาล แถมยังติดตั้งปืนใหญ่เลเซอร์ 2 กระบอกที่มีอานุภาพแรงพอจะฉีกยานขับไล่และยานขนส่งขนาดกลางให้เป็นชิ้น ๆ ได้ ด้วยการยิงโดนจัง ๆ เพียงชุดเดียวเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ไร้ซึ่งเกราะพลังงาน เครื่องไฮเปอร์ไดรฟ์ หรือแม้แต่ระบบพยุงชีพสำหรับนักบิน ทำให้มันเป็นเหมือนปืนใหญ่บินได้ที่เร็วจนหาตัวจับยาก แต่แค่โดนสะกิดด้วยปืนเลเซอร์ข้าศึกนิดหน่อยก็แตกเป็นเสี่ยงแล้ว
นักบินยาน TIE fighter ส่วนใหญ่จะเป็นเสืออากาศมือฉมัง และจะสวมชุดพยุงชีพเต็มอัตราทุกครั้งเมื่อขับยานชนิดนี้ นอกจากนี้การที่ยาน TIE fighter มีต้นทุนต่ำ และเน้นการผลิตออกมาเป็นจำนวนมากยังทำให้นักบินไม่ได้รู้สึกผูกพันกับยานตัวเองแต่อย่างใด พวกเขากลับมองว่าเป็นของใช้แล้วทิ้งซะมากกว่า ในสมรภูมิอวกาศ นักบินยาน TIE fighter จะต้องพึ่งพาความคล่องตัวของยานในการหลบหลีกเลเซอร์ศัตรู และใช้จำนวนยานที่มากกว่ารุมถล่มฝ่ายตรงข้าม ซึ่งการที่ยานลำนี้เรียบง่ายมาก ๆ ยังช่วยทำให้นักบินไม่ต้องคิดอะไรมาก เพียงแค่ใช้สมาธิจดจ่อกับการขับยานให้เก่งแล้วยิงให้โดนก็เกินพอแล้ว
TIE interceptor ฝันร้ายของนักบินฝ่ายกบฏ
TIE/IN interceptor คือยาน TIE fighter ชนิดพิเศษในทัพอากาศของฝั่งจักรวรรดิ เอกลักษณ์ของมันคือปีกทรงสี่เหลี่ยมคางหมู 4 แฉก ที่มีปืนใหญ่เลเซอร์ติดอยู่บนปลายปีกแต่ละข้าง ยาน TIE ชนิดนี้คือตัวพิฆาตยานขับไล่ของฝั่งกบฏ ถึงแม้มันจะไม่มีทั้งเกราะพลังงานและเครื่องยนต์ไฮเปอร์ไดรฟ์เหมือนยาน TIE fighter แต่มันมีเครื่องยนต์อิออนแฝดรุ่นอัพเกรดที่เพิ่มความคล่องตัวให้ยานมากขึ้น รวมทั้งยังสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 1,250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากนี้ ปืนใหญ่เลเซอร์จำนวน 4 กระบอกก็ยิ่งทำให้มันมีพลังทำลายล้างสูงขึ้น สามารถถล่มเกราะยานศัตรูให้เกลี้ยงได้จากการยิงซัลโวจัง ๆ เพียงทีเดียวเท่านั้น
เนื่องจาก TIE interceptor มีสมรรถนะเหนือกว่ายาน TIE ทั่วไป ฝ่ายจักรวรรดิจึงจะคัดเฉพาะนักบินที่มีฝีมือโดดเด่นกว่าคนอื่นให้มาขับยานรุ่นนี้ เพื่อให้สามารถดึงศักยภาพของยานออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ที่สุด นอกจากนี้ ดีไซน์ของปีกที่มีช่องว่างอยู่ตรงกลางยังช่วยให้นักบินมีทัศนวิสัยในสมรภูมิที่กว้างขึ้น ซึ่งความร้ายกาจของยานลำนี้ทำให้นักบินฝ่ายกบฏทุกคนรู้ดีว่าห้ามประมาทมันแม้แต่นิดเดียว
TIE bomber ยาน TIE สำหรับสายทำลายล้าง
TIE bomber มีชื่ออย่างเป็นทางการหลายชื่อ ทั้ง TIE Surface Assault Bomber หรือ TIE/sa tactical bomber ซึ่งหน้าที่หลักของมันในสมรภูมิก็ตรงไปตรงมาแบบเดียวกับชื่อมัน นั่นคือการใช้แสนยานุภาพจากสารพัดขีปนาวุธในคลังแสงเพื่อถล่มยานอีกฝ่ายให้เป็นจุณ รูปร่างของ TIE bomber มีจุดเด่นอยู่ที่พ็อดทรงกระบอกสองชิ้นที่ประกอบเป็นตัวถังของยาน และแผงปีกโซลาเซลล์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้ยาน ทดแทนให้กับน้ำหนักที่มากขึ้นของยานจากการบรรจุสรรพาวุธจำนวนมาก ในศึกแต่ละครั้ง กองยาน TIE bomber จึงมักจะถูกส่งออกไปเป็นทัพแรกเพื่อทิ้งระเบิดปูพรมปืนต่อต้านอากาศยาน สิ่งก่อสร้างของฝ่ายตรงข้าม หรือถล่มยานแม่ฝั่งข้าศึก ก่อนที่จะให้ยานขับไล่ตามไปเก็บกวาดเป้าหมายที่เหลือให้สิ้นซาก
พ็อดฝั่งขวาของ TIE bomber จะเป็นห้องคนขับสำหรับนักบิน โดยจะติดตั้งปืนใหญ่เลเซอร์ 2 กระบอกและเก้าอี้คนขับที่สามารถดีดตัวออกได้ในยามฉุกเฉิน ส่วนพ็อดฝั่งซ้ายสามารถปรับให้ใช้งานได้หลายรูปแบบ ได้แก่ การขนโปรตอนตอร์ปิโด 4 ลูกพร้อมกับจรวดคอนคัสชั่นมิสไซล์ 8 ลูก (สำหรับภารกิจถล่มยาน), การจุระเบิดโปรตอน 8 ลูกพร้อมกับลูกระเบิดเทอร์มัลเดโทเนเตอร์ 64 ลูก (สำหรับการทิ้งระเบิดปูพรม), หรือแม้แต่ใช้บรรทุกทหารราบสตอร์มทรูปเปอร์จำนวน 6 ราย (สำหรับภารกิจภาคพื้นดิน) ซึ่งการที่มันมีทั้งช่องทิ้งระเบิดที่ด้านใต้พ็อดและช่องยิงจรวดที่ด้านหน้าพ็อด ทำให้มันสามารถถล่มได้ทั้งฝูงยานขับไล่ด้านหน้าหรือยานแม่ข้าศึกที่ด้านล่างก็ยังได้
TIE reaper ยานขนส่งสำหรับหน่วยรบพิเศษ
ยาน TIE/rp reaper attack lander คือยานที่ทำหน้าที่หลักเป็นยานขนส่งพลทหารสู่ใจกลางสมรภูมิ โดยเฉพาะทหารระดับหน่วยรบพิเศษ หรือแม้แต่ซิธและเหล่าอินควิซิเตอร์ ส่วนหัวของยานมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีประตูสำหรับปล่อยกำลังพลใต้ห้องนักบินทางด้านหน้า และมีปีกโซลาร์เซลล์ปลายแหลมขนาดใหญ่ที่เชื่อมกันปีกเดียว ปีกดีไซน์นี้ช่วยให้ยานทรงตัวได้ดีในชั้นบรรยากาศ ทำให้ยานลำนี้เหมาะสำหรับการใช้ในภารกิจระดับพื้นผิวดาว เช่น การบินลาดตระเวนไปตามฐานทัพของจักรวรรดิต่าง ๆ หรือการส่งกองกำลังเฉพาะกิจเข้าจัดการศัตรู เป็นต้น
ตัวยานมีอาวุธหลักเป็นปืนใหญ่เลเซอร์ 2 กระบอกที่ติดตั้งอยู่ตรงปลายปีกด้านหน้า โดย TIE reaper ใช้เครื่องยนต์อิออนแบบแฝดที่เชื่อถือได้แบบเดียวกับยานตระกูล TIE ลำอื่นๆ และยังติดตั้งเครื่องยนต์ไฮเปอร์ไดรฟ์สำหรับการเดินทางด้วยความเร็วแสงมาให้ด้วย ภายในตัวยานค่อนข้างมีพื้นที่กว้างขวางทั้งในส่วนของห้องนักบินและห้องบรรจุกำลังพล และถึงแม้จะมีที่นั่งคนขับเรียงเป็นแถวหน้ากระดานถึง 3 ที่ แต่นักบินแค่คนเดียวก็เพียงพอสำหรับการใช้ควบคุมยาน TIE reaper ได้แล้ว นอกจากนี้การที่ตัวยานมีขนาดใหญ่ยังทำให้มันสามารถติดตั้งสรรพาวุธพิเศษอย่างลำแสงดึงดูด (Tractor Beam) เอาไว้ก่อกวนยานลำอื่นในสมรภูมิ นักบินฝ่ายกบฏมักจะเล็งยิง TIE reaper เป็นอันดับแรกๆ เพราะรู้ว่ามันน่าจะบรรทุกผู้โดยสารคนสำคัญหรือกองกำลังพิเศษมาด้วย นั่นทำให้เรามักจะเห็นยาน TIE fighter แบบอื่นบินอารักขายานลำนี้มาพร้อมกันเป็นขบวนบนน่านฟ้า
เครดิตภาพ: starwars.fandom.com, www.ea.com
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส