ในที่สุด Sony และ Microsoft ก็เปิดตัวเครื่องเกมคอนโซลเจ็นใหม่แบบละเอียดยิบทั้งคู่ซะที ตอนนี้ที่ทำได้ก็แค่รอดูราคาแล้วไปสอยเครื่อง PlayStation 5 กับ Xbox Series X มาลองกันเองซะที ช่วงนี้เลยกลายเป็นช่วงสุญญากาศที่คอนโซลเก่ากำลังจะไป คอนโซลใหม่กำลังจะมา เป็นช่วงที่เกมเมอร์หลายคนเริ่มรู้สึกโหวง ๆ ทำตัวไม่ถูก เพราะไม่รู้ว่าจะเอาตังค์ที่ไหนมาซื้อคอนโซลเครื่องใหม่ดี แต่ก่อนที่เราจะโบกมือบ๊ายบายเครื่อง PS4 กับ Xbox One อย่างเป็นทางการ เรามาย้อนดูมรดกดี ๆ ที่เครื่องคอนโซลรุ่นนี้ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้ากันดีกว่า มาทายกันซิว่าสุดยอดเกม Exclusive เด็ดๆ ที่กำเนิดจากเครื่องเกมสองรุ่นนี้มีอะไรบ้าง ใบ้ให้ว่ามันเป็นช่วง 7 ปีที่ดีไม่ใช่เล่นของวงการเกมเลยล่ะเหวย
1. สุดยอดเกมแนวยิงแหลก (Shooter)
Uncharted 4: A Thief’s End
- เครื่อง: PlayStation 4
- ทีมพัฒนา: Naughty Dog
- วางตลาดเมื่อวันที่: 10 พฤษภาคม 2016
ที่สุดของแฟรนไชส์เกมผจญภัยประจำเครื่อง PlayStation นอกจากภาคที่สี่จะเป็นภาคแรกที่เป็นเกม Uncharted ในยุค “เน็กซ์เจ็น” เต็มรูปแบบ มันยังเข้ามายกมาตรฐานของเกมของซีรีส์นี้ให้สูงขึ้นไปอีกระดับ จุดเด่นเรื่องแรกที่เห็นชัดที่สุดก็คือภาพกราฟิกในเกมที่สวยคมชัดจนเหมือนหนังที่เอาคนจริงมาเล่นไปแล้ว (จากที่ภาคก่อน ๆ จะเหมือนดูการ์ตูนซะมากกว่า) นอกจากนี้เกมยังมาพร้อมกับฉากแอ็กชันที่ทั้งมันส์ทั้งอลังการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากขับรถไล่ล่าตอนกลางเรื่องที่สนุกตื่นเต้นยิ่งกว่าที่เราเคยเห็นในหนังฮอลลีวูดเสียอีก ที่สำคัญภาคนี้ยังมีเนื้อเรื่องที่สนุกน่าติดตามชนิดวางจอยไม่ลง และมันยังเป็นภาคปิดฉากการผจญภัยของนาย Nate อย่างสวยงามเสียด้วย เรียกได้ว่าอะไรที่เป็นจุดขายของเกมแนวยิงแหลกนี่ Uncharted 4 เก็บงานผ่านฉลุยทุกข้อ แล้วแบบนี้จะไม่ลองไปผจญภัยในภาคนี้ได้ไง?
Halo: The Master Chief collection
- เครื่อง: Xbox One, PC
- ทีมพัฒนา: 343 Industries
- วางตลาดเมื่อวันที่: 11 พฤศจิกายน 2014
จริงอยู่ที่ช่วงแรกของเกมรวมอัตชีวประวัติของ Master Chief จะค่อนข้างตะกุกตะกักพอสมควร แต่หลังจากทีมพัฒนาเค้านั่งแก้บั๊กในโหมดมัลติเพลเยอร์และยกเครื่อง UI เกมจนเสร็จสมบูรณ์ เกมเมอร์อย่างเราก็ได้สุดยอดแพ็กเหมาแคมเปญยิงแหลกระดับคุณภาพมาไว้ใช้เล่นกันยาว ๆ เกมจะพาคุณออกบู๊ข้ามจักรวาลในฐานะ Master Chief ถึง 4 ภาครวด เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์เปิดศึกกับเหล่าเอเลียน Covenant ยันจบศึกกันเลยทีเดียว แถมยังมีภาคแยกจากมุมมองของหน่วย Spartan และทหารดิ่งพสุธานายอื่นอีก 2 ภาค (แล้วก็พอร์ตมาให้เล่นกันบนเครื่อง PC อีกต่างหาก) เกมเมอร์จะได้ปะทะกับศัตรูมากหน้าหลายตาเป็นสิบแบบ และยังได้ใช้อาวุธทั้งของฝ่ายมนุษย์และเอเลี่ยนอีกมากมายนับไม่ถ้วน ซึ่ง AI ศัตรูที่ฉลาดกับระบบยิงปืนที่ออกแบบมาให้ยิงสนุกก็ยิ่งช่วยให้ฉากแอ็กชันทุกฉากสนุกและท้าทาย ที่สำคัญคืองานออกแบบฉากที่ใหญ่โตมโหฬารอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ Halo ก็ยิ่งทำให้สมรภูมิไซไฟแห่งนี้ยิ่งใหญ่อลังการยิ่งกว่าเกม FPS ไหน ๆ ที่คุณเคยเจอ
2. สุดยอดเกมแนวแอ็กชัน (Action)
God of War
- เครื่อง: PlayStation 4
- ทีมพัฒนา: Santa Monica Studio
- วางตลาดเมื่อวันที่: 20 เมษายน 2018
หลังจากที่เทพสงคราม Kratos ห่างหายจากเครื่อง PlayStation ไปเนิ่นนาน ในที่สุดเขาก็กำขวานกลับมาในภาคใหม่ที่เป็นเหมือนทั้งภาครีบูตและภาคต่อของ God of War 3 และเขาไม่ได้กลับมาเฉย ๆ แต่กลับมาในฐานะ Kratos คนใหม่ คนที่เติบโตกว่าเดิมทั้งในแง่ระบบการเล่น งานภาพ และเนื้อเรื่องที่มีความลึกซึ้งกินใจมากกว่าแค่เส้นทางการล้างแค้นอันโชกเลือด God of War เป็นหนึ่งในเกมที่ใช้โชว์ศักยภาพกราฟิกบนเครื่อง PlayStation 4 ที่ดีที่สุดเพราะมันเต็มไปด้วยฉากต่อสู้ยิ่งใหญ่ระดับเทพ นอกจากนี้เกมเมอร์ยังจะได้พบกับระบบการเล่นที่ทั้งมันส์ทั้งท้าทาย ได้ผจญภัยในแดนเทพนิยายไวกิ้งพันธุ์ดุ และยังได้ดื่มด่ำกับเนื้อเรื่องที่อิงอยู่บนความสัมพันธ์พ่อลูกที่ดันสนุกกว่าเรื่องราวการล้างแค้นของ God of War ภาคอื่น ๆ ซะอีก นี่คือเกมที่ควรค่าให้คุณซื้อเครื่อง PS4 มาเล่นอย่างแท้จริง
Gears 5
- เครื่อง: Xbox One, PC
- ทีมพัฒนา: The Coalition
- วางตลาดเมื่อวันที่: 6 กันยายน 2019
เกมซีรี่ส์ Gears ถือเป็นหนึ่งในเกมหัวโขนประจำเครื่อง Xbox มาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งถึงแม้เกม Gears of War ภาค 4 จะสนุกเพลิน ๆ ได้มาตรฐานเกมภาคใหม่ แต่เกม Gears 5 ต่างหากที่ดึงเสน่ห์ของซีรีส์เลื่อยไฟฟ้าบ้ากล้ามกลับมาได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งในแง่การโชว์เคสภาพกราฟิกที่สวยงามระดับก้าวข้ามเครื่องคอนโซลเจ็นนี้ไปแล้ว แคมเปญเนื้อเรื่องที่เข้มข้นกระแทกอารมณ์ แถมยังมีมุกใหม่เพิ่มเข้ามามากมาย (โซนโอเพนเวิลด์ หุ่นแจ็คเพื่อนยาก) และที่สำคัญคือฉากยิงกันที่มันส์ระห่ำไม่เปลี่ยนแปร นอกเหนือไปกว่านั้น เกมยังขนระบบมัลติเพลเยอร์ทั้งโหมดเก่าโหมดใหม่มาให้เล่นกันจุใจ จะ co-op หรือสู้กับชาวบ้านก็จัดไปตามสะดวก สรุปสั้นๆ ว่าเกมนี้อัดแน่นทั้งในแง่คุณภาพและปริมาณและควรหามาเล่นด้วยประการทั้งปวงหากคุณเป็นแฟนเกมแนวลุยแหลกครับ
3. สุดยอดเกมแนวโลกเปิดกว้าง (Open world)
Horizon Zero Dawn
- เครื่อง: PlayStation 4, PC
- ทีมพัฒนา: Guerrilla Games
- วางตลาดเมื่อวันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2017
ส่วนผสมระหว่างเกมโลกเปิดกว้างสัญชาติตะวันตกและเกมสายมอนฮันของฝั่งตะวันออกทำให้เกม Horizon Zero Dawn เหมาะสำหรับเกมเมอร์ทุกเพศทุกวัย เกมนี้มีหมดทั้งฉากกว้างใหญ่ที่เปิดให้เกมเมอร์จะลุยหรือจะซุ่มสไตล์ไหนก็ได้ ระบบการต่อสู้ก็เล่นสนุกทั้งยังท้าทาย และเกมยังมีเส้นเรื่องที่น่าติดตามที่จะค่อย ๆ ไขปริศนาให้เกมเมอร์ว่า เพราะเหตุใดมนุษยชาติถึงย้อนกลับมาสู่ยุคหินและทำไมสิ่งมีชีวิตบนโลกแทบทั้งหมดถึงกลายเป็นจักรกล จุดเด่นที่สุดของเกมนี้นอกจากเรื่องงานภาพกราฟิกก็คงหนีไม่พ้นฉากพื้นหลังที่มีเอกลักษณ์แบบหาไม่ได้ในเกมไหน เราเห็นเกมบู๊สายทหารในสงครามยุคปัจจุบันจนเกลื่อน เห็นเกมแนวไซไฟยิงกันกลางอวกาศจนเฝือ ยิ่งถ้าเป็นโลกอัศวินพ่อมดแฟนตาซีนี่ยิ่งโหล แต่จะหาเกมที่ให้คุณเล่นเป็นนักธนูสาวสู้กับไดโนเสาร์เหล็กในโลกอนาคตหลังยุคโลกล่มสลาย (เฮ่อ ยาวจัง) นี่จะหาจากเกมไหนได้อีกล่ะ ก็มีแต่ต้องซื้อเครื่อง PS4 มาเล่นในเกม Horizon Zero Dawn นี่แหละ (แต่ตอนหลังเล่นบน PC ก็ได้นะ)
Sunset Overdrive
- เครื่อง: Xbox One, PC
- ทีมพัฒนา: Insomniac Games
- วางตลาดเมื่อวันที่: 28 ตุลาคม 2014
เกมโลกเปิดกว้างบางเกมก็มีจุดเด่นจากกิจกรรมยุ่บยั่บมากมายที่มีให้ทำบนแผนที่ บางเกมก็เด่นจากขนาดแผนที่ใหญ่โตมโหฬาร และบางเกมก็เด่นจากระบบการต่อสู้ที่ให้ซุ่มหรือบู๊ก็ได้ตามใจ แต่เกม Sunset Overdrive กลับเลือกที่จะดึงจุดเด่นจากลีลาการเคลื่อนที่ของตัวละครเวลาไปไหนมาไหนระหว่างสถานที่ต่างๆ แทนที่จะเดินเบื่อๆ จากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง คุณจะได้ไถไปตามราวเหล็ก สายไฟ หรือกระโดดเด้งไปตามพัดลมแอร์ประหนึ่งเป็นโทนี ฮอว์กผสมสไปเดอร์แมน และยิ่งคุณต่อคอมโบลีลาการเป่าศัตรู (ที่เป็นซอมบี้น้ำอัดลม) ให้ยิ่งเท่ยิ่งดูดีมีสไตล์ในระหว่างการเคลื่อนที่ได้แค่ไหน คุณก็จะยิ่งได้คะแนนสำหรับใช้ซื้อปืนผาหน้าไม้หรืออัปเกรดตัวละครให้เก่งขึ้นได้เท่านั้น นั่นทำให้ระหว่างเล่นเกมนี้ คุณจะแทบไม่มีโมเมนต์น่าเบื่อเลย นอกจากนี้สไตล์ของเกมที่ยียวนกวนประสาทก็ยิ่งช่วยให้เกมเล่นคลายเครียดได้ดียิ่งนัก และงานออกแบบฉากระดับเทพที่ทำให้คุณสามารถเดินทางจากฟากหนึ่งไปอีกฟากหนึ่งของแผนที่โดยที่เท้าไม่ต้องแตะพื้นก็ยิ่งทำให้การเล่นของคุณไหลลื่นจนหยุดไม่อยู่ เผลอดูเวลาอีกทีนี่อาจหมดเวลาชีวิตไปทั้งวันแล้ว
4. สุดยอดเกมสวมบทบาท (RPG)
Final Fantasy VII Remake
- เครื่อง: PS4
- ทีมพัฒนา: Square Enix
- วางตลาดเมื่อวันที่: 2 มีนาคม 2020
โปรเจ็ครีเมคเกมภาษาสุดคลาสสิกที่กินเวลายาวนานกว่าครึ่งทศวรรษ เรียกได้ว่าแฟน FF7 เดนตายนี่นั่งรอกันจนเง็กกันเลยทีเดียว ข่าวดีก็คือการรอคอยครั้งนี้ช่างคุ้มค่ายิ่งนัก เพราะผลลัพธ์ที่ออกมาคือเกม JRPG ระดับคุณภาพที่เหนือความคาดหมายในทุกองค์ประกอบ เริ่มจากเรื่องงานภาพที่ใช้เอ็นจิน Unreal 4 รังสรรค์นคร Midgar ออกมาได้สวยงามทุกช็อตประหนึ่งกำลังนั่งดูภาพยนตร์คั่นฉาก (โดยเฉพาะใบหน้างาม ๆ ของนวลน้อง Aerith และ Tifa) ระบบการต่อสู้ก็รวดเร็วฉับไวทันสมัยตามยุค แต่ในขณะเดียวก็ยังให้ผู้เล่นต้องใช้กลยุทธ์เวลาตีบอส นอกจากนี้เกมยังไม่ได้เล่าเนื้อเรื่องเดิมด้วยวิธีการก็อปมาแปะทั้งดุ้น เพราะเขาใช้วิธีนำส่วนของเนื้อเรื่องที่ไม่ได้ถูกพูดถึงในภาคต้นตำรับมาขยายความเป็นเกมเต็ม ทำให้มันมีทั้งเสน่ห์จากภาคเก่าและของเล่นจากภาคใหม่คละเคล้าอยู่ด้วยกัน พูดได้เต็มปากว่านี่คือหนึ่งในเกมสไตล์รีเมคที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และต่อให้คุณไม่ได้เป็นแฟน FF7 ก็ยังสามารถเต็มอิ่มกับความบันเทิง (แนวญี่ปุ่นจ๋า) ที่เกมนี้มอบให้ได้อยู่ดี
The Outer Worlds
- เครื่อง: Xbox One, PC, PlayStation 4, Nintendo Switch
- ทีมพัฒนา: Obsidian Entertainment
- วางตลาดเมื่อวันที่: 25 ตุลาคม 2019
เกมสวมบทบาทสายตะวันตกของแท้และดั้งเดิมที่ให้อารมณ์เหมือนเกม Fallout เวอร์ชั่นท่องอวกาศ (ซึ่งเอาจริง ๆ สนุกกว่า Fallout 4 และ Fallout 76 ด้วยซ้ำ) เกมให้ผู้เล่นสำหนดเองว่าตนต้องการจะเล่นเป็นคนแบบไหน เป็นไอ้ก้านยาวพิทักษ์คุณธรรม เป็นวายร้ายปืนโหดที่เด็ดหัวศัตรูจากระยะไกล เป็นนินจาไร้เงาลอบเก็บศัตรูทีเผลอ หรือจะเป็นสาริกาลิ้นทองที่ใช้ฝีปากช่วยให้รอดตายในทุกสถานการณ์ก็ย่อมได้ ซึ่งในระหว่างการผจญภัยไปตามดาวต่างๆ คุณก็จะได้พบกับเพื่อนร่วมทางมากหน้าหลายตา ต่างคนต่างมีบุคลิกน่าสนใจอันเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกละม้ายคล้ายลูกเรือของซีรีส์ไซไฟคลาสสิกอย่าง “Firefly” ยิ่งนัก ที่สำคัญที่สุดคือจักรวาลในเกมนี้ก็มีบุคลิกโดดเด่น (และกวนประสาท) ไม่ต่างจากตัวละครเด่นทั้งหลายในเกม มันคือโลกที่บริษัททุนนิยมเข้าครอบงำทุกองค์ประกอบของชีวิตในแดนชายขอบจักรวาล ชาวบ้านชาวช่องต้องดิ้นรนต่อสู้กับสัตว์เอเลี่ยนและอุปสรรคต่างๆ นาๆ เพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ เมื่อบวกกับการที่เกมเปิดให้ผู้เล่นทำอะไรก็ได้จริง ๆ (จะยิงเพื่อนหรือ NPC ตัวไหนทิ้งก็เชิญ) ซึ่งทุกการกระทำจะมีผลสะท้อนกลับมาเสมอ ก็ยิ่งทำให้ The Outer Worlds เป็นเกม RPG ที่มีเสน่ห์และน่าจดจำเหลือเกิน
5. สุดยอดเกม Exclusive ที่เกมเมอร์ห้ามพลาด
Marvel’s Spider-Man และ The Last of Us Part II
- เครื่อง: PlayStation 4
- ทีมพัฒนา: Insomniac Games / Naughty Dog
- วางตลาดเมื่อวันที่: 7 กันยายน 2018 / 19 มิถุนายน 2020
สุดยอดเกม Exclusive บนเครื่อง PS4 ที่เป็นดั่งด้านสองด้านที่แตกต่างบนเหรียญเดียว เกมหนึ่งคือเกมแนวโลกเปิดกว้าง ให้อิสระกับผู้เล่นว่าจะไปทำอะไรที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ และให้อารมณ์สนุกสนานตื่นเต้นมีชีวิตชีวาแบบหนังฮีโร อีกเกมคือเกมที่เล่าเรื่องราวเข้มข้นตรงไปตรงมา เน้นการต่อสู้ในฉากที่เป็นเส้นตรงซึ่งได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดี และมีอารมณ์ของเรื่องสำหรับสายดาร์กจริงอะไรจริง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สองเกมนี้มีเหมือนกันคือการเก็บรายละเอียดงานที่เนี้ยบกริ๊บชนิดไร้รอยตะเข็บ ทั้งในด้านงานภาพและเกมเพลย์ รวมทั้งเส้นเรื่องที่สนุกกินใจเกมเมอร์สุดๆ 2 เกมนี้คือเกมที่เจ้าของเครื่อง PS4 ทุกคนควรมีไว้ประดับฝาบ้าน แล้วค่อยหยิบมาเล่นโชว์เพื่อนเป็นครั้งคราวเวลามันมาห้อง ให้พวกเขาประจักษ์ว่าขุมพลังของเกม Exclusive ของ Sony มันเด็ดดวงสะท้านปฐพีขนาดไหน
Forza Horizon 3 และ 4
- เครื่อง: Xbox One, PC
- ทีมพัฒนา: Playground Games, Turn 10 Studios
- วางตลาดเมื่อวันที่: 27 กันยายน 2016 / 28 กันยายน 2018
Forza Horizon ภาค 3 และ 4 คือนิยามของคำว่า “ขับรถกินลมชมวิว” อย่างแท้จริง มันเป็นหนึ่งในเกมเล่นเพลิน ๆ ลืมเวลาที่ดีที่สุดในตอนนี้ โดย Horizon ภาค 3 จะพาคุณขับรถเข้าสู่ประเทศออสเตรเลียเวอร์ชันย่อส่วน ที่มีภูมิประเทศทุกรูปแบบทั้งป่าดงดิบเขียวขจี ทะเลทรายกว้างสุดลูกหูลูกตา และตึกรามบ้านช่องย่านใจกลางเมือง ในขณะที่ภาค 4 จะพาคุณซิ่งในสวนหลังบ้านของประเทศอังกฤษ ซึ่งวิวทิวทัศน์จะเปลี่ยนไปอย่างสินเชิงตามฤดูกาลทั้ง 4 ของปี ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ถึงแม้ทั้งสองภาคนี้จะมีฉากหลังที่แตกต่างกัน แต่เรื่องเส้นทางซิ่งรถที่เปิดกว้าง ยานยนต์ที่มีให้เลือกขับมากมายชนิดเหมางานมอเตอร์โชว์ (แถมแต่ละคันยังให้อารมณ์การขับขี่ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด) และภาพกราฟิกที่สวยงามตระการตาสุด ๆ เป็นจุดแข็งหลักที่คุณจะพบได้ในทั้งสองเกมนี้ เกม Forza Horizon ทั้งภาคออสเตรเลียและอังกฤษคือเกมขับรถที่จะมอบความสนุกเพลิดเพลินให้คุณเล่นจมลืมเวลา แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นเกมเมอร์สายแข่งรถก็ตาม และมันคือหนึ่งในสุดยอดเกมบนเจเนอเรชันเครื่อง Xbox One อย่างไร้ข้อกังขา
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส