เมื่อพูดเกมในซีรีส์ Resident Evil ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนคงจะมุ่งความสนใจไปที่เกม Resident Evil Village ที่มีกำหนดวางจำหน่ายเร็ว ๆ นี้ กับข่าว Resident Evil 4 ที่กำลังสร้างอยู่ แต่สำหรับแฟน Resident Evil ที่เล่นเกมนี้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ภาคแรกบน PlayStation หลายคนคงรู้สึกขัดใจที่ทาง Capcom ไม่นำเกม Resident Evil Outbreak และ Resident Evil Code Veronica มา Remake เพราะ 2 เกมนี้คือหนึ่งในความดีงามที่แฟน ๆ Resident Evil ชื่นชอบและรอคอยกว่า Resident Evil 4 แต่ด้วยความเก่าของทั้ง 2 เกม (Code Veronica ปี 2000 Outbreak 2003) จึงอาจจะทำให้แฟนเกมนี้หลงลืมหรือไม่รู้จักกัน วันนี้เราจึงรวบรวมเหตุผลต่าง ๆ ที่เกม Resident Evil ทั้ง 2 ภาคนี้ควรเอามา Remake มานำเสนอ จะมีเหตุผลอะไรที่น่าสนใจบ้างมาดูกันเลย
ทำความรู้จัก Resident Evil Outbreak
ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหาของบทความเรามาทำความรู้จักเกม Resident Evil Outbreak กันก่อนว่าเกมนี้คือเกมอะไรสำหรับคนที่ไม่รู้จัก โดยเริ่มจากเรื่องราวของเกมนี้จะเริ่มต้นขึ้นใน J’s Bar ที่ตั้งอยู่ใน Raccoon City ช่วงที่ T-Virus ระบาด ซึ่งเป็นเรื่องราวช่วงเดียวกับ Resident Evil 3 ที่จะเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครทั้ง 8 คนที่อยู่ในนั้น โดยทุกคนนั้นจะมีความสามารถต่าง ๆ ตามอาชีพของตนเอง และเป้าหมายของเกมนี้คือการพยายามช่วยกันแก้ไขปริศนาต่าง ๆ ในฉากขนาดใหญ่เพื่อหาทางหนีออกมาจากเมือง ซึ่งแต่ละฉากก็จะเป็นเนื้อเรื่องก่อนเกมภาคหลัก อย่างสถานีตำรวจก่อนเนื้อเรื่องภาค 2 สถานีวิจัยใต้ดินไปจนถึงฉากต่าง ๆ ที่เราคิดไม่ถึงอย่างสวนสัตว์โรงพยาบาลร้างในป่าเมือง Raccoon ที่ล้วนแล้วแต่เชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องหลัก แต่ระบบการเล่นเราก็สามารถคลานหมอบและใช้ท่อนไม้โจมตีศัตรูได้ แต่ด้วยตัวเกมที่มาก่อนกาลในยุค PlayStation 2 ที่ระบบ Online ยังไม่เป็นที่นิยมเท่าตอนนี้ จึงทำให้เกมนี้ที่ถูกทำออกมาถึง 2 ภาคไม่เป็นที่นิยม แม้ตัวเกมจะเล่นคนเดียวได้แต่มันก็ยากเกินไปกว่าจะเล่นจบ ที่ใครอยากเล่นตอนนี้ก็คงจะยากหน่อยเพราะทาง Capcom ไม่เปิดให้เล่นมีแต่เกมที่แฟน ๆ เอาภาค Outbreak มาพัฒนาต่อเพื่อเล่น Online ใครสนใจก็ไปตามหาเล่นดูได้
Resident Evil Code Veronica คือภาค 3 ที่แท้จริง
สำหรับใครที่ไม่เคยเล่นเกม Resident Evil Code Veronica มาก่อนอาจจะสงสัยว่าทำไมเราถึงจั่วหัวข้อแบบนี้ เพราะไม่ว่าจะดูมุมไหนเกม Resident Evil 3 Nemesis ก็เหมาะจะเป็นเกมภาคที่ 3 ของซีรีส์ แต่ถ้าเรามาดูกันตามเนื้อหาของเกมแล้ว Resident Evil Code Veronica นั้นจะเป็นเรื่องราวที่สานต่อจาก Resident Evil 2 แบบไปข้างหน้ายังสถานที่ใหม่ตัวละครชุดใหม่ Virus ใหม่มากกว่า Resident Evil 3 Nemesis ที่ยังคงย่ำอยู่ที่เดิมในเมือง Raccoon แถมความยาวของตัวเกมบวกกับเนื้อหาก็น่าสนใจกว่า Resident Evil 3 ที่เหมาะจะเป็นภาคเสริมมากกว่า และเพื่อเป็นการยืนยันเรื่องนี้คุณ Shinji Mikami ผู้ให้กำเนิดเกมซีรีส์ Resident Evil ได้ออกมาอธิบายถึงเรื่องนี้ว่า Resident Evil Code Veronica ไม่ใช้ตัวเลขภาคหลักก็เพราะตอนนั้น Resident Evil ยังติดสัญญากับ PlayStation ดังนั้นการสร้างภาคใหม่บนเครื่องอื่นการใช้ตัวเลขภาคจึงไม่สามารถทำได้ เพราะตอนนั้น Resident Evil Code Veronica ลงบนเครื่อง Dreamcast ของ Sega ทั้งที่ทีมพัฒนาอยากใส่หมายเลขภาคลงไปมากกว่า และยิ่งถ้าคุณเคยเล่นเกมภาคนี้คุณก็จะคิดแบบที่แฟน ๆ เกมนี้คิดกัน
เหตุผลที่ Capcom ไม่ Remake Resident Evil Code Veronica และ Outbreak
ในส่วนของเหตุผลที่ทาง Capcom ไม่ยอม Remake นั้นก็ไม่มีข้อมูลออกมาอย่างเป็นทางการ แต่จากการคิดวิเคราะห์ปนคาดเดาของแฟน ๆ และสื่อทั่วโลกต่างลงความเห็นว่า เหตุที่ Capcom กระโดดไปพัฒนา Resident Evil 4 แทน Code Veronica และ Outbreak นั่นก็เพราะยอดขายและเสียงตอบรับของแฟน ๆ ที่มีต่อ Resident Evil 3 Remake และ Resident Evil Resistance นั้นไปในทางลบเมื่อเทียบกับ Resident Evil 2 Remake ที่แฟน ๆ ชื่นชอบ จนทาง Capcom ไม่อยากจะเดินย่ำบนเส้นทางเดิมอีกครั้งจึงเลือกที่จะเปลี่ยนแนวเกมไป Remake Resident Evil 4 เพราะเป็นตัวเกมที่ใหม่กว่าและเปลี่ยนแนวทางเดิม ๆ ที่เคยมี ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ Capcom คิดผิด เพราะสิ่งที่แฟน ๆ ไม่ชอบ Resident Evil 3 Remake ก็เพราะความสั้นของเกมรวมถึงการตัดหลาย ๆ อย่างที่ควรมีออกไปจนแฟน ๆ ไม่ชอบ ส่วน Resident Evil Resistance ก็เหมือนเป็นการย่อส่วนดัดแปลงจากภาค Outbreak ที่แทบไม่มีอะไรเหมือนกันเลย ซึ่งใครที่เคยเล่นทั้ง 2 เกมมาแล้วจะทราบดี และไม่ว่าจะเป็นอย่างไรแฟน ๆ ก็อยากให้ Remake 2 ภาคนี้มากกว่า Resident Evil 4 แน่นอน
Resident Evil Outbreak เนื้อเรื่องเสริมที่น่าสนใจ
ขยายความจากหัวข้อที่แล้วที่หลายคนอาจจะไม่ทราบว่าเนื้อเรื่องเสริมของ Resident Evil Outbreak มีความน่าสนใจขนาดไหน ก็เริ่มจากฉากของเกมนี้ที่หลายส่วนนั้นก็อ้างอิงฉากมาจากตัวเกมภาคหลักแต่ในเนื้อหานั้นจะเป็นก่อนเกมภาคหลักที่เราได้อธิบายไป โดยในเกมนี้จะบอกเราว่าก่อนที่ Carlos Oliveira จะไปในสถานีตำรวจเกิดอะไรขึ้นบ้างผ่านตัวละครที่เราเล่น รวมถึงการบอกเล่าในส่วนอื่น ๆ ที่น่าสนใจอย่างหลังจากเชื้อ Virus ระบาดพนักงานใน Umbrella ทำอะไรกัน ที่แม้บางฉากจะไม่มีในเกมภาคหลักแต่ตัวเกมก็เกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวหลักในภาคต่าง ๆ รวมถึงเหล่าตัวละครหลาย ๆ คนที่มีความสำคัญกับเนื้อเรื่องที่ช่วยเติมเต็มช่องว่างของ Resident Evil ภาค 0 ถึงภาค 3 ได้เป็นอย่างดี ที่ถามว่าไม่เล่นได้ไหมก็ได้ตอบว่าได้ แต่ถ้าคุณอยากจะทราบเนื้อเรื่องที่ครอบคลุมแปลกใหม่น่าสนใจที่ต่างจาก Resident Evil ภาคหลักก็ควรจะเล่น และเราก็รับประกันเลยว่าเกมนี้ดีกว่า Resident Evil Resistance หลายร้อยเท่า
Resident Evil Outbreak และ Code Veronica จะพาเราไปสถานที่ใหม่
ถ้าพูดถึงการพาเราไปยังสถานที่ใหม่สำหรับ Resident Evil Code Veronica อาจจะใช่เพราะคราวนี้เราจะได้หลุดไปยังเกาะที่ใช้ขังนักโทษ ที่เป็นกึ่งปราสาทขนาใหญ่ก่อนที่จะไปสถานีวิจัยใน Antarctican ที่ต่างกับตอนแรก แถมยังมีเรื่องราวของ Chris Redfield ที่เราจะได้เล่นในช่วงกลางเกมซึ่งเป็นเรื่องราวตามหลัง Claire Redfield ไปจากเกาะแล้ว ฉากต่าง ๆ จึงเปลี่ยนไปจากเดิมที่ทำให้อารมณ์การเล่นสนุกและน่าติดตาม ขณะที่ Resident Evil Outbreak แม้จะเป็นฉากในเมือง Raccoon แต่ตัวเกมก็นำเสนอในมุมอื่น ๆ อย่างสวนสัตว์ในเมือง Raccoon สถานีวิจัยของ Umbrella ไปจนถึงสถานีรถไฟใต้ดินที่เราไม่เคยไป บวกกับระบบการเล่นของเกมที่ให้เราควบคุมเป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้เก่งแบบตัวละครหลักในภาคปกติ เราจึงจะได้เห็นอาการรนรานวิ่งไปมาจากคนเล่นเกม ที่คราวนี้เราจะไม่มีอาวุธเยอะแบบภาคปกติแต่ต้องร่วมมือกันเพื่อเอาตัวรอด ที่เราจะได้เห็นจิตใจคนในเกมที่คุณจะเลือกช่วยผู้เล่นคนอื่น ขณะที่บางคนก็เลือกจะหนีเอาตัวรอดคนเดียว(ผู้เขียนเคยเล่นระบบ Online มาแล้ว) และถ้าเราไม่ได้รับการรักษาตัวละครเราที่ถูกกัดจะกลายเป็นซอมบี้ไปจนกว่าจะจบภารกิจหรือทุกคนกลายเป็นซอมบี้จนหมด บวกกับฉากที่เราไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไรกับการผ่านภารกิจที่มีหลายแบบในการผ่าน จนเราสามารถเล่นเกมนี้ได้หลายรอบแม้จะเป็นฉากเดิม นั่นจึงเป็นความพิเศษของ 2 ภาคนี้ที่ภาคอื่นไม่มี
ตัวละครทั้ง Resident Evil Outbreak และ Code Veronica มีมิติกว่าสามภาคก่อน
อีกหนึ่งจุดเด่นที่ Resident Evil Outbreak และ Code Veronica มีก็คือตัวละครที่ในภาค Outbreak ทั้ง 2 ภาคนั้นจะใช้ตัวละคร 8 คนที่มาจากหลายอาชีพที่มีทั้งนักข่าวที่ตามเรื่อง Umbrella ที่เป็นเพื่อนกับ Ben Bertolucci นักข่าวในคุกของ Resident Evil 2 George Hamilton คุณหมอที่ทำงานใน Raccoon General Hospital ที่เดียวกับใน Resident Evil 3 โดยเขาเป็นคนค้นพบว่าเชื้อ T-Vrus ปนเปื้อนในน้ำดื่ม หรือ Yoko Suzuki สาวความจำเสื่อมที่ความจริงแล้วเธอเป็นผู้คิดค้น Hunter และ Tyrant Projects แถม Hunter ก็มีเซลล์เนื้อเยื่อของเธอเป็นต้นแบบ โดยหลาย ๆ ฉากในเกมก็จะเกี่ยวกับตัวละครในเกมที่เป็นมากกว่าแค่การเอาตัวรอด หรือจะเป็นภาค Code Veronica ที่แม้จะมีตัวละครเก่าอยู่เยอะแต่ก็มีอะไรใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามามากมาย ทั้งฝาแฝด Ashford ที่เป็นตัวร้ายและพระเอกสุดอาภัพของซีรีส์ Steve Burnside ซึ่งตัวละครเหล่านี้ก็ทำให้เกมนี้มีมิติและเชื่อโยงกับภาคอื่น ๆ ได้สนุก ซึ่งใครที่เคยเล่นน่าจะทราบดี
ทั้ง 2 ภาคมีระบบการเล่นที่น่าสนใจ
ในส่วนของระบบการเล่นของทั้ง 2 เกมนั้นก็มีการพัฒนาจากเดิมมาก เริ่มจาก Code Veronica ที่ตัวเกมยังคงใช้การควบคุมแบบในภาคก่อน ๆ ที่เป็นแบบมุมกล้องตายตัวกับการควบคุมแบบ Tank Controls ที่ผู้เล่นเก่าจะทราบดี แต่ตัวเกมก็มีการเพิ่มระบบปืนสองมือที่ช่วยเพิ่มพลังการยิง(และแน่นอนว่ามันก็เปลืองกระสุนและเนื้อที่เก็บ) รวมถึงระบบเนื้อเรื่องที่เอาของ Resident Evil 2 มาพัฒนา ซึ่งแทนที่จะมี 2 ตัวละครให้เลือกแต่ทั้ง 2 ตัวละครจะใช้เนื้อเรื่องเดียวกันแต่ต่างช่วงเวลา ซึ่งเราจะได้เล่นเป็น Claire ก่อนที่เรื่องจะตัดมาที่ Chris ที่เดินทางตามหลังก่อนที่ทั้งคู่จะได้มาเจอกัน ขณะที่ Outbreak จะให้อารมณ์แบบเกม Dead Rising ที่เราจะต้องหาอาวุธตามฉากมาใช้ในการป้องกันตัวอย่างท่อนไม้แท่งเหล็กมีดปืน นอกจากนี้เรายังสามารถก้มคลานหมอบเพื่อไปหลบตามสถานที่ต่าง ๆ ในการเอาตัวรอด รวมถึงการช่วยเหลือของผู้เล่นคนอื่นในฉากที่ทั้งการดันประตูกันซอมบี้การแลกเปลี่ยนสิ่งของ แถมในหลาย ๆ ครั้งเราก็อาจจะหลงทางกับคนอื่นเพราะตัวเกมจะมีฉากขนาดใหญ่ที่มีหลายโซนให้เลือกไป แถมตัวละครที่เราเลือกก็จะมีความสามารถที่ต่างกัน ที่บางคนมีปืนตั้งแต่เริ่มเกมเพราะเป็นตำรวจ บางคนอึดกว่าปกติเพราะเป็นยามร่างใหญ่หรือบางคนวิ่งเร็วกว่าคนอื่น ที่การเลือกตัวละครจะไม่มีผลกับตัวเกม ดังนั้นไม่ว่าจะเลือกตัวไหนก็ได้แล้วแต่ความชอบของคุณเลย
ช่วงเวลาในการนำมา Remake เหมาะสมกว่า Resident Evil 4
อย่างที่เราได้บอกไปในหัวข้อก่อนหน้านี้เกี่ยวกับปีที่ทั้ง 2 เกมวางจำหน่ายที่ภาค Code Veronica จำหน่ายในปี 2000 ส่วนภาค Outbreak วางจำหน่ายในปี 2003 ขณะที่เกม Resident Evil 4 วางจำหน่ายบนเครื่อง GameCube ในปี 2005 ที่เมื่อดูช่วงเวลาที่ 3 เกมนี้มี Resident Evil 4 ดูจะเป็นอะไรที่ใหม่เกินไปที่จะเอามา Remake แถมตัวเกม Resident Evil 4 ก็เหมือนจะเป็นลูกรักของ Capcom เพราะทุกครั้งที่มีเครื่องเกมตัวใหม่ออกมาเราจะได้เห็นเกม Resident Evil 4 วางจำหน่ายด้วย ขณะที่ภาค Code Veronica กับ Outbreak นั้นไม่เคยเอามาทำลงเครื่องอื่นเลย จะมีเพียง Code Veronica X ที่ถูกเอามาทำลงบน PlayStation 2 กับการเอาเรื่องราวในภาค Code Veronica มาทำใหม่ให้เป็นแนวยิงในชื่อภาค Resident Evil Survivor 2 Code Veronica กับบนเครื่อง Wii ใน Resident Evil The Darkside Chronicles ที่ไม่ใช่รูปแบบเดิม ๆ ดังนั้นความน่าสนใจและความต้องการของแฟน ๆ อาจจะมากกว่า Resident Evil 4 ที่หลายคนรู้จักอยู่แล้ว
Resident Evil Outbreak ระบบ Online ที่เหมาะกับตอนนี้
Resident Evil Outbreak คือเกมที่มาก่อนกาลนั่นคือคำพูดของแฟน ๆ Resident Evil ที่ได้เล่นและรู้จัก Resident Evil Outbreak เพราะสมัยที่เกมนี้วางจำหน่ายที่เป็นยุคของ PlayStation 2 ที่ถ้าจะให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายที่สุด ก็คงจะเป็นยุคที่โทรศัพท์มือถือเพิ่งจะมีจอสีและยังถ่ายรูปไม่ได้ระบบอินเทอร์เน็ตยิ่งไม่ต้องพูดถึง ที่แม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นหรือทางตะวันตกเองก็ยังเล่นเกมนี้ได้ไม่เยอะ ซึ่งทาง Capcom ที่พอจะทราบเรื่องนี้จึงมีโหมดการเล่นคนเดียวขึ้นมา แต่มันก็ไม่สนุกเท่ากับการเล่น Online ที่ในยุคนี้ถ้าใครอยากเล่นก็มีคนเอาเกมนี้มาพัฒนาต่อเพื่อเล่นแบบ Online ได้ใครสนใจก็ไปหาวิธีเล่นดู ตัวเกมไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากของเก่าแค่เอาเกมมาใส่ระบบ Online เท่านั้น ตัวเกมค่อนข้างสนุกและมีคนเล่นมากมายตอนนี้ และถ้าคิดในมุมกลับกันถ้า Capcom เอา Resident Evil Outbreak มา Remake โดยยึดหลักทุกอย่างมาใช้ทั้งหมดจะดีงามขนาดไหน
เปรียบเทียบ Resident Evil Outbreak กับ Resident Evil Resistance
อีกเรื่องที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้กับการเปรียบเกม Resident Evil Outbreak กับ Resident Evil Resistance ว่าเหมือนหรือต่างกันตรงไหน ซึ่งต้องบอกเลยว่าต่างกันชนิดฟ้ากับก้นเหว ไม่ว่าจะเป็นตัวฉากที่ของ Outbreak จะเป็นฉากขนาดใหญ่ที่เราสามารถหลงทางกับเพื่อน ๆ ได้ ไปจนถึงฉากของเกมที่ซับซ้อนที่สามารถหลงทางกับเพื่อน ๆ ได้ ขณะที่ Resistance จะเป็นฉากแคบ ๆ ที่วิ่งวนไปวนมา ตัวละครในเกม Outbreak ก็ให้อารมณ์การเอาชีวิตรอดมากกว่า เพราะทุกคนจะเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย เราแค่ดิ้นรนเอาชีวิตโดยการหาทางหนีออกไปจากสถานที่นั้นให้ได้ก็พอ และไม่ว่าจะเลือกตัวละครไหนก็ไม่มีผลกับตัวเกม เรียกว่าเอามาเล่นซ้ำกี่รอบก็สนุกต่างกับ Resistance ที่จะเป็นฉากเดิม ๆ การแก้ปริศนาเดิม ๆ แต่ของ Outbreak จะมีหนทางรอดหลายแบบทั้งการร่วมมือกันหาทางหนีหรือจะเอาตัวรอดคนเดียวก็ได้ และไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นเก่าที่วิ่งวนมั่ว ๆ หรือใหม่ผู้เล่นใหม่ที่รู้ทางก็มีโอกาสตายได้เท่า ๆ กัน เพราะบางครั้งถ้าไม่ร่วมมือกันหรือโชคร้ายไปเจอศัตรูที่โหด ๆ ในฉากก็ยากที่จะเอาชีวิตรอด ที่เกมจะมีทั้งแบบตายไปเลยกับโดนกัดติดเชื้อจนเป็นซอมบี้ที่เราสามารถควบคุมตัวละครที่เป็นซอมบี้ไปกัดผู้เล่นคนอื่นได้ แต่ถ้าโดยยิงก็จะตายเลยและไปหาห้องใหม่ แถมแต่ละฉากก็มีให้อารมณ์การเล่นที่ต่างกันแถมมีฉากเยอะกว่าของ Resistance อีกด้วย เรียกว่าดีงามไปทุกอย่างจริง ๆ
Resident Evil Code Veronica คือภาคต่อที่คุณควรเล่นต่อจาก Resident Evil 2 Remake
ถ้าใครที่เล่น Resident Evil 2 Remake จะทราบดีว่าเรื่องราวของ Claire นั้นคือการมาตามหาพี่ชายที่ขาดการติดต่อไปเป็นเวลานานจนเกิดเป็นเรื่องราวในเกมที่เราได้เล่น หลังจากนั้น Claire ก็ยังคงตามหาพี่ชายต่อจนผ่านไป 3 เดือน Claire ได้ตามสืบเรื่องของพี่ชายจนไปถึง Umbrella Corporation ใน Paris ซึ่งแทนที่จะได้พบกับพี่ชายเธอกลับถูกจับได้และส่งตัวมายัง Rockfort Island แต่เมื่อมาถึงไม่นานบนเกาะก็ถูกบุคคลปริศนามาบุกพร้อมกับปล่อย T-Virus รั่วไหล จนนักโทษบนเกาะรวมถึงคนที่ตายไปแล้วลุกขึ้นมาจากหลุม Claire ที่หนีออกมาได้พยายามติดต่อหา Leon จนทางนั้นติดต่อ Chris ได้(ในภาค 6 หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมสองคนนี้ทักทายเหมือนคนรู้จักทั้งที่เพิ่งเคยเจอหน้า เพราะทั้งคู่เคยพบกันแล้วในภาคนี้นั่นเอง) จนเมื่อ 2 พี่น้องหนีมาได้ Claire ก็เข้ากลุ่ม TerraSave ขณะที่ Chris ไปบุกรังของ Umbrella ในเรื่องราวภาค The Darkside Chronicles กับ DLC Lost in Nightmares ในภาค 5 ที่ต้องบอกว่าภาคนี้คือตัวเชื่อมเรื่องราวทั้งหมดในซีรีส์ Resident Evil เลยก็ว่าได้
Resident Evil Outbreak ได้เห็นซอมบี้สัตว์ที่เราไม่เคยเห็นในภาคอื่น
ในขณะที่ Resident Evil ภาคหลักสิ่งที่คุณจะได้เจอก็มีเพียงซอมบี้ Tyrant ซอมบี้หมา Hunter วน ๆ ซ้ำ ๆ กันไป แต่ใน Resident Evil Outbreak นั้นได้ฉีกทุกอย่างที่กล่าวมาเพราะในภาคนี้เราจะได้เจอ สิงโต ช้าง จระเข้ นก ซอมบี้กลายพันธุ์กึ่งพืช ชายถือเลื่อย Tyrant G ซอมบี้หมา Hunter ไปจนถึงหมัดยักษ์ที่พร้อมที่พร้อมจะฆ่าคุณได้ตลอดเวลา ส่วนคุณที่มีไม่ถูพื้นมีดพกปืนสั้นกับสองเท้าที่หนีลูกเดียว และสิ่งเหล่านี้เราก็ไม่เคยเห็นใน Resident Evil ภาคอื่น ๆ เลย แถมแต่ละชนิดที่กล่าวมาก็มีรูปแบบการล่าเหยื่อจู่โจมที่ต่างกัน เช่นสิงโตจะมาเป็นฝูงช้างจะวิ่งไล่กระทืบเราจระเข้จะรอกินเราในน้ำ ที่ต่อให้อยู่ร่วมกันเราก็เป็นได้แค่อาหาร Buffet จานโตให้พวกมันเท่านั้น
การเชื่อมโยงเรื่องราวในเกมที่ต่อ Resident Evil Code Veronica ไปยังภาคอื่น
จากหัวข้อที่แล้วหลายคนอาจจะสงสัยการเชื่อมโยงของเรื่องราวในซีรีส์ Resident Evil ว่าหลังจากที่สองพี่น้องพบกันแล้วเกิดอะไรขึ้น แล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับภาค Code Veronica ซึ่งต้องบอกว่าเกี่ยวมาก ๆ เพราะในตอนจบ ส่วนนี้จะมีการเปิดเผยตอนจบของเกมถ้าไม่อยากอ่านก็ข้ามไปได้เลย Albert Wesker ได้ลักขโมยศพของ Steve Burnside ไปเพื่อสกัดเอาเชื้อ T- Veronica และตัวของเขาก็อยู่เบื้องหลังการบุกเกาะ Rockfort หลังจากนั้น Wesker ก็เอาเชื้อ T- Veronica มาขายต่อให้กับ Javier Hidalgo พ่อค้ายาเสพติดที่มีความสัมพันธ์กับ Umbrella ที่ Leon ของเราต้องมาสืบเรื่องนี้พร้อมกับ Jack Krauser และเชื้อตัวนี้ยังถูกเอาไปพัฒนารวมกันกับเชื้อตัวอื่น ๆ จนกลายเป็น C-Virus ใน Resident Evil 6 อีกด้วย ซึ่งเราก็ได้แต่หวังว่า Steve จะยังไม่ตายและกลับมามีบทบาทอีกครั้งในเกม
สิ่งที่เราได้รู้จาก Resident Evil Outbreak ที่เกี่ยวกับเรื่องราวในภาคหลัก
สำหรับคนที่อยากทราบว่า Resident Evil Outbreak มีการเชื่อมโยงตรงไหนกับภาคหลักบ้าง ก็มีฉากของโรงพักเราจะได้เห็นความวุ่นวายในสถานีตำรวจ ที่ในตอนนั้น Marvin Branagh ยังไม่บาดเจ็บ เขากับเจ้าหน้าที่ซึ่งต้านผู้ติดเชื้อไม่อยู่พยายามจะหลบหนีออกไปจากที่นี่ โดยการค้นพบอุโมงค์ลับใต้โรงพักที่ในอดีตที่นี่เคยเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะแต่ก็ไม่มีใครกล้าลงไป จนเมื่อไม่มีทางอื่นทุกคนจึงลงไป(หนึ่งในฉากของเกม) โดยมีเจ้าหน้าที่ Rita Phillips เป็นตัวหลักของฉากนี้ ซึ่งสุดท้ายเราก็สามารถพาทุกคนหนีออกมาได้แต่ Marvin เลือกที่จะถ่วงเวลารอให้ทุกคนหนีไป จนได้รับบาดเจ็บที่เป็นเรื่องราวต่อไปใน Resident Evil 2 ฉบับเก่า หรือจะเป็นเรื่องราวของสถานีวิจัยที่หลังจาก T-Virus รั่วไหล พนักงานใน Umbrella จึงพยายามจะขโมยเชื้อไปรวมถึงข้อมูลต่าง ๆ เพื่อเอาไปขายก่อนจะถูก G ฝังตัวอ่อนใส่จนกลายร่าง ไปจนถึงสถานีรถไฟที่ Jill ใช้หลบหนี้ทางผู้รอดชีวิตก็พยายามจะเดินเครื่องจนมาจอดที่สถานีซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นใน Resident Evil 3 ขณะที่ผู้รอดชีวิตคนอื่นก็พยายามหาทางอื่นไปต่อจนพวก Jill มาใช้ให้มันทำงานได้ ซึ่งนี่เป็นเพียงรายละเอียดรวม ๆ ที่ถ้าจะให้เจาะลึกลงไปก็จะมีตัวละครอีกหลายคนที่เกี่ยวโยงกัน ที่ถ้าคุณเล่นภาค 0-3 มาแล้วต้องเข้าใจทุกอย่างแน่นอน
Resident Evil Outbreak ของมีค่าที่ Capcom ลืม
ปิดท้ายกับเสียงบ่นของแฟน ๆ Resident Evil ที่มีของดีอย่าง Resident Evil Outbreak ที่สามารถเอามาต่อยอดพัฒนาให้ดีขึ้นแต่ทาง Capcom กลับไปทำ Resident Evil Resistance ที่เหมือนเป็นการลบหลู่ตอกหน้าแฟน ๆ ที่ชื่นชอบเกม Resident Evil Outbreak ที่ถ้าใครเคยเล่นเกมนี้มาแล้วจะทราบถึงความดีงามของเกมนี้ว่าดีขนาดไหน แต่ทาง Capcom กลับไม่สนใจเพราะล่าสุดได้หยิบเอา Resident Evil มาทำเป็นแบบ Resident Evil Re Verse ที่แทบไม่มีกลิ่นอายความเป็น Resident Evil Outbreak ยิ่งกว่า Resistance เสียอีก ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ได้เลยว่างานนี้ Capcom คงโดนด่าเละไม่เป็นท่า และคงจะอีกนานกว่าทาง Capcom จะกลับมา Remake Resident Evil Outbreak หรือไม่ก็คงจะเป็นตอนนี้เกมแนวเอาชีวิตรอดแบบนี้โด่งดังขึ้นมา capcom คงจะเกาะกระแสเกมแนวนี้ในตลาดและเข็นภาค Outbreak ออกมาก็ได้ใครจะรู้
ก็จบกันไปแล้วกับ 15 เหตุผลรวมเหตุผลที่ Capcom ควรนำ Resident Evil Outbreak และ Code Veronica มา Remake ซึ่งใครที่ไม่เคยเล่นเกมทั้ง 2 ภาคมาก่อนอาจจะไม่ค่อยอินหรือรู้สึกเท่ากับคนที่เคยเล่นและชื่นชอบเกมทั้ง 2 ภาค เพราะเกมทั้ง 2 ภาคนี้คือช่วงรอยต่อที่สำคัญของซีรีส์ที่ทาง Capcom พยายามคิดหาหนทางใหม่ ๆ ให้กับซีรีส์ Resident Evil เราจึงได้เห็นความพยายามใส่ใจในการพัฒนาเกม ที่ต่างกับตอนนี้ที่เน้นความเร็วและการขายมากกว่าความสนุกของแฟน ๆ และเราก็หวังว่าเสียงเล็ก ๆ นี้จะส่งไปถึง Capcom ให้รู้ว่าตัวเองกำลังมองข้ามเกมที่ดีแบบนี้ไป และหันกลับมาใส่ใจหยิบสองภาคนี้มา Remake ส่วนใครที่มีแนวอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับสองเกมนี้ก็บอกกันมาได้เพื่อแลกเปลี่ยนกัน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส