เมื่อพูดถึงการโกหกเชื่อว่าทุกคนบนโลกใบนี้คงไม่มีใครไม่เคยพูดโกหก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ดีหรือไม่ก็ตามการโกหกก็คือการโกหก และการโกหกทุกครั้งนั้นก็เพื่อการหลอกลวงให้อีกฝ่ายหลงเชื่อและทำตามที่เราต้องการ ซึ่งถ้าเป็นในชีวิตปกติของเราการโกหกนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรง แต่ในโลกของวิดีโอเกมนั้นการโกหกคือเรื่องร้ายแรงที่อาจจะเปลี่ยนชีวิตหรือตัวเกมภาคนั้น ๆ ไปได้เลยทีเดียว เมื่อคิดได้แบบนั้นเราเลยไปรวบรวมเกมที่มีคำโกหกที่เปลี่ยนชีวิตตัวละครในเกมมานำเสนอ จะมีเกมไหนคำโกหกเรื่องอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย
มีคำโกหกอะไรบ้าง
- Dr. Wily ที่ขอยอมแพ้จะไม่ก่อความวุ่นวายอีก จากเกม Rockman
- ขอบคุณมาริโอ้แต่เจ้าหญิงอยู่ปราสาทต่อไป จากเกม Super Mario Bros
- แกคือฆาตกร จากเกม Among Us
- เลิกแก้แค้นแต่ก็ทำไม่ได้ จากเกม The Last of Us Part II
- Zeus หลอก Kratos ในเกม God of War 2
- Albert Wesker หลอกหน่วย S.T.A.R.S. ไปตาย จากเกม Resident Evil 1
- นายคือ Big Boss จากเกม Metal Gear Solid V The Phantom Pain
- ข้าจะสานต่อสิ่งที่แม่ทำค้างเอาไว้ จากเกม Final Fantasy VII
- จงปกป้องโลก จากเกม Nier Automata
- ไม่มีสัจจะในหมู่โจร จากเกม Red Dead Redemption
- หลอกใช้ให้ทำลายโลก จากเกม Death Stranding
- ร่วมมือกันล้มล้างจักรพรรดิ จากเกม Star Wars The Force Unleashed
- มีคนมาแทนเธอแล้ว จากเกม The Last Of Us
คำเตือน.เนื้อหาในบทความมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องในเกมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
Dr. Wily ที่ขอยอมแพ้จะไม่ก่อความวุ่นวายอีก จากเกม Rockman
เริ่มต้นเรื่องแรกกับการโกหกของตัวร้ายในวิดีโอเกม ที่ตรงกับคำโบราณที่ว่าไม่มีสัจจะในหมู่โจร คำ ๆ นี้ใช้ได้ผลในทุกยุคสมัยจริง ๆ โดยเฉพาะเกมในซีรีส์ ‘Rockman’ ที่ตั้งแต่ภาคแรกของเกมมาจนถึงภาคล่าสุดอย่าง ‘Rockman 11’ เราก็ยังคงเห็นตัวร้ายอย่าง ดร.ไวลี่ (Dr. Wily) ออกมาสร้างความวุ่นวายตลอด ทั้งภาคหลักภาคแยกภาคย่อยไปจนถึงภาคเสริม ที่ทุกครั้งที่พ่ายแพ้ดร.ไวลี่ก็จะก้มขอขมายอมแพ้และสัญญาว่าจะไม่ทำเรื่องชั่วร้ายอีก แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาในภาคต่อไปกับแผนการครองโลก ซึ่งตอนแรก ๆ ‘Rockman’ ก็เชื่อแต่หลัง ๆ พอเจอบ่อย ๆ เข้าก็ไม่เชื่อใจอย่างใน ‘Rockman 7’ ที่ ‘Rockman’ คิดจะฆ่าดร.ไวลี่ทิ้งเพื่อตัดปัญหาจนเป็นการทำลายกฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์ที่ห้ามทำร้ายมนุษย์ ซึ่งจนถึงตอนนี้เขาก็ไม่เคยรักษาสัญญาได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว นับเป็นการโกหกครั้งใหญ่ของวงการเกมที่นักเล่นเกมจดจำได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณมาริโอ้แต่เจ้าหญิงอยู่ปราสาทต่อไป จากเกม Super Mario Bros
คุณเคยพยายามทำอะไรบางอย่างด้วยความยากลำบากรึเปล่า แน่นอนว่าคุณต้องเคยทำกันมาบ้าง และหนึ่งในนั้นก็คือการนั่งเล่นเกม ‘Super Mario Bros’ ภาคแรก ที่เราจะได้ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ มากมายเพื่อไปช่วยเจ้าหญิง ที่เมื่อเราตัดสะพานฆ่าหัวหน้าประจำฉากไปได้แทนที่เราจะได้เจอตัวเจ้าหญิงที่เราตามช่วย แต่กลับพบเพียงเจ้าโทด (Toad) คนสนิทหัวเห็ดของเจ้าหญิงที่ขอบคุณราและบอกว่าเจ้าหญิงถูกจับอยู่ที่ปราสาทต่อไป โอเคได้ถ้าแบบนั้นเราก็ไปที่ด่านต่อไป จนเมื่อมาถึงที่ปราสาทต่อมาเราก็เจอเจ้าโทดคนเดิม และพูดประโยคเดิมแบบนี้ซ้ำ ๆ ไปสิบกว่าด่าน ซึ่งไม่ว่าจะดูยังไงมันก็คือคำโกหกที่เราต้องเจอซ้ำ ๆ ที่จะว่าเป็นฝีมือของตัวร้ายที่หลอกเราก็ไม่น่าจะใช่ เพราะทุกครั้งที่เราเจอก็คือเจ้าโทดคนเดิม ก็หมายความว่าถ้าตัวร้ายไม่จับเจ้าหัวเห็ดโทดมาซ้ำ ๆ ก็แปลว่าเจ้าหญิงกำลังปั่นหัวเราอยู่อย่างแน่นอน และถ้าเราดูรูปเจ้าโทดดี ๆ จะเห็นว่ามันกำลังชูนิ้วกลางให้เราด้วย ยิ่งเป็นการตอกย้ำเรื่องนี้เข้าไปอีก
แกคือฆาตกร จากเกม Among Us
ถ้าพูดถึงเกมที่เน้นการโกหกหลอกลวงผู้เล่นก็มีอยู่มากมายในตลาด แต่เกมที่เป็นกระแสและเป็นที่นิยมในตอนนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเกม ‘Among Us’ เกมที่ให้เรารับบทเป็น ‘The Impostor’ ที่ต้องฆ่าทุกคนในยานให้หมดโดยที่ไม่ให้มีใครรู้ ซึ่งสิ่งที่เราต้องทำก็คือการโกหกหรือใส่ร้ายคนอื่นว่าเป็นคนร้าย(ถ้าคุณได้รับบทนั้น) ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นคนร้ายก็ต้องระแวงว่าใครคือคนร้าย เพราะทุกคนนั้นน่าสงสัยทั้งหมดจนเราไว้ใจใครไม่ได้ ส่วนคนที่ไม่เคยเล่นเกมนี้ เกมจะให้เรารับบทเป็นตัวละครที่อยู่ในยานอวกาศที่ต้องทำภารกิจต่าง ๆ เพื่อให้ยานไปต่อได้ ส่วนคนร้ายหรือ ‘The Impostor’ ก็มีหน้าที่ในการฆ่าคนในยานให้หมดโดยไม่ให้ใครรู้ ซึ่งถ้ามีคนรู้และพร้อมใจกันออกเสียงเลือกเราว่าเป็นคนร้าย เราก็จะถูกเตะออกไปนอกยานที่ถือว่าพ่ายแพ้ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนก็สามารถเลือกคนผิดไปได้ด้วย(คนร้ายตัวจริงก็ยืนยิ้มไป) ตัวเกมเน้นการพูดคุยสื่อสารเพื่อใส่ร้ายหรือยืนยันตัวตน นับเป็นเกมที่ตรงกับเนื้อหาบทความที่สุด
เลิกแก้แค้นแต่ก็ทำไม่ได้ จากเกม The Last of Us Part II
ไม่เจอกับตัวเองไม่มีวันเข้าใจถึงความรู้สึกนี้ นั่นคือสิ่งที่เกม ‘The Last of Us Part II’ ต้องการสื่อกับคนเล่นเกม ที่ใน ‘The Last of Us’ ภาคแรกจะสื่อถึงความรักความผูกพันสายใยของพ่อลูกที่เชื่อมถึงกันในโลกอันโหดร้าย ขณะที่ในภาค 2 ของเกมนั้นจะตรงข้ามกับภาคแรกทุกอย่าง ทั้งความโกรธเกลียดเคียดแค้นความพยาบาทที่ไม่ว่าตัวละครในเกมจะปล่อยวางยังไงความรู้สึกผิดบาปก็ยังคงติดอยู่ในใจจนล้างไม่ออก กลายเป็นโกหกคนที่รักว่าฉันปล่อยวางแล้วพอแล้วเลิกแล้ว แต่สุดท้ายจิตใจลึก ๆ ก็ยังคงรู้สึกถึงมันและภาพนั้นก็ยังตามมาหลอกหลอน(ภาคคนที่รักถูกฆ่าต่อหน้า) ที่แม้จะหนีเท่าใดก็หนีไม่พ้น เช่นเดียวกับเอลลี่ (Ellie) ที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติกับครอบครัวคนที่รักได้แล้ว แต่สุดท้ายเธอก็ต้องกลับไปในวังวนของการแก้แค้น เพราะความรู้สึกโกรธเกลียดเคียดแค้นยังคงฝังลึกจนไม่สามารถหนีไปได้ ทั้งที่สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะไม่แก้แค้น จนสุดท้ายเอลลี่ก็ไม่เหลือใครแถมยังต้องจมทุกข์อยู่กับความเศร้านั้นไปตลอดชีวิต ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เอลลี่ได้กลับมาจากการโกหกและการไม่ปล่อยวางของตนเอง
Zeus หลอก Kratos ในเกม God of War 2
คราวนี้มาดูการหลอกแบบง่าย ๆ แต่เราก็หลงเชื่อเพราะความไว้ใจกันบ้าง กับการหลอกของซุส (Zeus) ที่จะให้เครโทส (Kratos) วางใจเพื่อไปหยิบดาบ ‘Blade of Olympus’ จนถูกขโมยพลังไปจนหมด โดยทุกอย่างมันเริ่มต้นที่ความหยิ่งผยองของเครโทสที่เมื่อตนได้เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามแทนเทพองค์ก่อน เขาก็ใช้พลังที่มีช่วยฝ่ายกรีกของตัวเองจนชนะสงครามครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งมันเป็นสิ่งที่เทพแห่งสงครามไม่ควรทำในการเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จนซุสต้องลงมาจัดการกับเรื่องนี้โดยการเสกรูปปั้นยักษ์ให้มาทำลายเมืองกรีก จนเครโทสต้องลงจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่เกินกว่าที่เทพเจ้าแห่งสงครามอย่างเขาจะทำลายมันได้ ตอนนั้นเองซุสก็ส่ง ‘Blade of Olympus’ มาให้เครโทสเพื่อยืมพลัง ที่เมื่อเครโทสจับดาบผลกลับเป็นตรงข้ามเพราะเขากลับถูกดูดพลังเทพไปจนหมด ในวินาทีนั้นสีหน้าของเครโทสเต็มไปด้วยความผิดหวังที่ถูกคนที่ไว้ใจโกหกหักหลัง(รูปประกอบด้านล่าง) แถมยังถูกซุสแทงจนเสียชีวิตเกิดเป็นเรื่องราวการฆ่าล้างบางทวยเทพนับตั้งแต่นั้นมา ซึ่งถ้ามองกันจริง ๆ แล้วเครโทสก็ผิดแต่การโกหกเพื่อกำจัดอีกฝ่ายก็ดูไม่ค่อยเข้าท่า ยิ่งซุสที่เป็นถึงเทพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโอลิมปัสมาทำแบบนี้มันก็ดูไม่เหมาะสมเข้าไปอีก ระดับความสามารถของเขาควรทำสิ่งที่ถูกต้องกว่านี้ ซึ่งผลที่ตามมาของการโกหกของซุสก็ร้ายแรงจนถึงชีวิตเลยทีเดียว
Albert Wesker หลอกหน่วย S.T.A.R.S. ไปตาย จากเกม Resident Evil 1
เชื่อว่าคนที่เล่นเกม ‘Resident Evil’ ภาคแรกในสมัยเครื่อง ‘PlayStation 1’ จนมาถึงตอนท้ายเกมต้องรู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อเรารู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เราต้องเจอมาทั้งหมดตลอดทั้งเกมไม่ว่าจะเป็นฝูงซอมบี้ไปจนถึงสัตว์ประหลาดที่ฆ่าชีวิตเพื่อนร่วมทีมหน่วย S.T.A.R.S. ของเรานั้นมันคือแผนการของอัลเบิร์ต เวสเกอร์ (Albert Wesker) ที่ต้องการทดสอบเหล่าอาวุธชีวภาพของตนเองว่ามันจะทำงานได้ดีขนาดไหน ถ้าต้องต่อสู้กับหน่วยพิเศษที่ถูกฝึกมาอย่างดีอย่างหน่วย S.T.A.R.S. ที่ในตอนแรกนั้นเวสเกอร์ได้ส่งหน่วยแรกมาตรวจสอบเรื่องราวการหายตัวไปของชาวเมืองแรคคูนที่หายตัวไปในป่า ซึ่งตอนนั้นเวสกอร์รู้เรื่องราวทุกอย่างหมดแล้ว และคิดว่าต่อไปเรื่องราวต้องบานปลายไปมากกว่าแน่ ๆ แต่ไหน ๆ เรื่องก็เลวร้ายขนาดนี้แล้ว เขาจึงเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสโดยการส่งหน่วย S.T.A.R.S. หน่วยที่สองไป โดยคราวนี้เขาจะไปควบคุมทุกอย่างเอง ซึ่งสุดท้ายการโกหกนี้ก็เป็นผล เพราะเวสเกอร์ได้ข้อมูลมากมายตามที่เขาต้องการจนสามารถดำเนินแผนขั้นต่อไปได้สำเร็จ นับเป็นการโกหกที่ให้ผลดีที่กว่าเราจะรู้ว่าเขาไม่ตายก็รอไปถึงภาคที่ 4 เลยทีเดียว
นายคือ Big Boss จากเกม Metal Gear Solid V The Phantom Pain
สำหรับการหลอกลวงครั้งนี้ต้องย้อนกลับไปเล่าตั้งแต่เกม ‘Metal Gear Solid V Ground Zeroes’ ที่ในตอนนั้น ‘BigBoss’ ต้องไปช่วยตัวประกันที่ค่ายกักกันที่เรียกว่า ‘Ground Zeroes’ ซึ่งนั่นคือแผนของตัวร้ายที่ต้องการหลอกให้ ‘BigBoss’ ออกมาจากฐานกลางทะเลของตนเอง เพื่อจะได้มาบุกตอนที่ ‘BigBoss’ ไม่อยู่จนเกิดเป็นการทำสงครามที่ในตอนนั้น ‘BigBoss’ ที่กลับมาทันก็ได้ประสบอุบัติเหตุจนบาดเจ็บสาหัส แขนขวาขาด และมีเหล็กเสียบที่หัวจนเหมือนเขา พร้อมอาการโคม่ากว่า 9 ปีที่เสียไปอย่างไร้ค่า จนเมื่อตื่นขึ้นมาโรงพยาบาลที่เรารักษาตัวก็ถูกฝ่ายตัวร้ายมาบุกเพื่อฆ่า‘BigBoss’ จนเมื่อเราหนีมาได้จึงเริ่มการแก้แค้นคนที่ทำลายชีวิตเรา โดยตลอดทั้งเกมนั้นเราจะไม่ทราบเลยว่า ‘BigBoss’ ที่เราเล่นและควบคุมมาตลอดนั้นเป็นเพียงตัวปลอม ที่ถูกตัวจริงจับเรามาศัลยกรรมใบหน้าใบหน้าแถมด้วยการสะกดจิตให้หลงเชื่อว่าตนเองคือ ‘BigBoss’ เพื่อการแก้แค้น ขณะที่ตัวจริงในเกมไม่ได้บอกว่าเขาหายไปไหนทำอะไร จนมาถึงตอนจบเกมที่เมื่อเราแก้แค้นสำเร็จการสะกดจิตก็ได้คลายลงไป เราจึงรู้ว่าตนเองคือตัวปลอมแต่แทนที่ตัวปลอมจะตกใจหรือโกรธแค้นที่ถูกทำแบบนี้ ตรงข้ามเขากลับยอมรับและยอมเป็นเงาของ ‘BigBoss’ ต่อไป ขณะที่เพื่อน ๆ ที่ไว้ใจ ‘BigBoss’ ตัวจริงที่เมื่อทราบเรื่องราวทั้งหมดก็โกรธและตีตัวออกห่างจากทั้งคู่ในเวลาต่อมา เรียกว่าหลอกทั้งตัวละครในเกมและคนเล่นได้อย่างแนบเนียนจริง ๆ และการโกหกนั้นก็ทำให้ ‘BigBoss’ ทั้งสองเสียเพื่อนที่ไว้ใจไปตลอดกาลซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องแลกมากับการโกหกนี้
ข้าจะสานต่อสิ่งที่แม่ทำค้างเอาไว้ จากเกม Final Fantasy VII
สำหรับเรื่องนี้จะเรียกว่าหลอกตัวเอง แถมพอเชื่อไปแล้วคนที่ทราบความจริงก็ไม่คิดที่จะบอกว่าอะไรคืออะไร และยังสนับสนุนการหลอกตัวเองครั้งนี้ จนเรื่องราวบานปลายไปจนกลายเป็นการทำลายโลกเลยทีเดียว โดยเรื่องราวในครั้งนี้เริ่มต้นที่ตัวเซฟีรอธ (Sephiroth) นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดที่หลายคนก็ไม่ทราบชาติกำเนิดของเขา จนวันหนึ่งเซฟีรอธได้ไปศึกษาเกี่ยวกับตำราโบราณจนทราบเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่ชื่อว่าเจโนวา (Jenova) ที่ตกลงมายังโลกในยุคอดีตเพื่อทำลายโลกใบนี้ แต่สุดท้ายนางก็ถูกเหล่ามนุษย์โบราณผนึกกำลังกันจนปิดผนึกปีศาจร้ายลงไปได้ วันเวลาผ่านไปศาสตราจารย์ โฮโจ (Professor Hojo) ได้ค้นพบเจโนวาและคิดจะใช้สิ่งนี้สร้างมนุษย์สายพันธุ์ขึ้นมา โดยเซฟิรอธที่เป็นลูกชายแท้ ๆ ของตนเองคือตัวทดลองที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ตัวเซฟิรอธกลับคิดว่าเจโนวาคือแม่และคิดว่ามนุษย์นั้นชั่วร้าย จนทำให้เขาคิดจะทำลายโลกใบนี้เพื่อแก้แค้นให้แม่ของตน ซึ่งตัวของโฮโจก็ทราบเรื่องนี้แต่ก็ยังคงสนับสนุนลูกชายตนเองให้ทำเรื่องชั่วร้ายโดยไม่คิดที่จะบอกความจริง เรียกว่าหลอกตัวเองพอว่าคนที่รู้ความจริงมาสนับสนุนความเข้าใจผิดซ้ำอีกมันยิ่งเจ็บคูณสองจริง ๆ
จงปกป้องโลก จากเกม Nier Automata
ถ้าพูดถึงเกมแอ็กชันสนุก ๆ กราฟิกสวยตัวละครสาว ๆ น่ารัก(แม้จะปิดตาก็เถอะ) เกม ‘Nier Automata’ คือหนึ่งในความดีงามที่เราอยากให้คุณหามาเล่น แถมเนื้อเรื่องของเกมนี้ก็สนุกลึกซึ้งกินใจ แต่สิ่งที่เป็นประเด็นหลักของเกมนี้ก็คือการโกหกซ้ำไปซ้ำมาแบบไม่มีที่สิ้นสุด กับเรื่องราวการเดินทางมาปกป้องโลกของหุ่น ‘2B’ หุ่นยนต์สาวสวยกับ ‘9S’ ที่เป็นหุ่นเพศชายที่ถูกส่งมายังโลกเพื่อกำจัดผู้รุกรานจากโลกอื่นเพื่อปกป้องมนุษย์ ก่อนที่ทั้งคู่จะทำสำเร็จโดยการสละชีวิตของตนเองเพื่อกำจัดศัตรู ก่อนที่เรื่องราวจะกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับตัวละครชุดเดิมเรื่องราวเดิมที่คนเล่นก็สงสัยว่ามันคืออะไร ก่อนที่ตัวเกมจะเฉลยกับเราว่ามนุษย์นั้นสูญสิ้นไปตั้งหลายพันปีแล้ว และสิ่งที่ ‘2B’ กับ ‘9S’ ทำนั้นก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกเป็นพัน ๆ ครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองคนนั้นไม่ทราบเรื่องนี้เพราะเมื่อทุกอย่างจบลงทั้งคู่ก็จะถูกลบความทรงจำและเริ่มทำงานแบบเดิมต่อไป เรียกว่าเป็นการโกหกที่เจ็บจริง ๆ ลองคิดดูว่าถ้าคุณต้องทำอะไรซ้ำ ๆ แบบเดิมเป็นร้อยเป็นพันครั้งโดยไม่รู้ความจริงมันจะเจ็บขนาดไหน
ไม่มีสัจจะในหมู่โจร จากเกม Red Dead Redemption
โจรยังไงก็ยังเป็นโจรคำ ๆ นี้ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับทุกคน เพราะคนที่รู้ตัวเองว่าเป็นโจรยังดีกว่าโจรที่ไม่รู้ตัวหรือรู้ตัวแต่ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นโจรเสียอีก ซึ่งในเกม ‘Red Dead Redemption’ เริ่มต้นด้วยเหตุผลนี้ กับเรื่องราวของจอห์น มาร์สตัน (John Marston) อดีตโจรกลับใจที่ได้โอกาสที่ 2 ในการใช้ชีวิตใหม่ แต่แล้วเขาก็ทำมันพังเพราะไปปล้นจนถูกตำรวจจับได้ และข้อเสนอที่จอห์นได้รับเพื่อแลกกับอิสระภาพในการกลับไปอยู่กับครอบครัว ก็คือการตามล่าฆ่าเพื่อนโจรที่ในอดีตเคยเป็นเหมือนพี่น้องร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา แต่เพื่อครอบครัวที่รออยู่เขาจึงทำให้เขาต้องลงมือทำ ซึ่งทั้งหมดนั้นมันก็คือคำโกหกจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่เมื่อจอห์นทำตามที่สัญญาได้แล้วเขากลับถูกตำรวจที่ให้คำสัญญาหักหลังได้อย่างหน้าด้าน ๆ เรียกว่าคำโกหกคำโตที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ซึ่งมันก็คือผลที่ตามมาของการเป็นโจรที่จอห์นได้รับ ส่วนผลของการโกหกหักหลังจอห์น นายตำรวจทั้งสองคนก็ได้รับผลของตนเองเช่นกัน เพราะสุดท้ายแล้วลูกชายของจอห์นก็มาแก้แค้นให้พ่อของตนในภายหลังนั่นเอง ค่าตอบแทนของการโกหกหักหลังมันช่างแพงจริง ๆ
หลอกใช้ให้ทำลายโลก จากเกม Death Stranding
อีกหนึ่งคำลวงที่คนเล่นเกม ‘Death Stranding’ รับรู้และจดจำได้เป็นอย่างดี กับเรื่องราวของเกมที่เริ่มต้นจากแซม (Sam) นักส่งของในโลกที่ล่มสลายเพราะฝนเร่งเวลา ที่เมื่อสิ่งมีชีวิตโดนฝนนั้นจะแก่อย่างรวดเร็ว(ฝนโดนตัวส่วนตัวจะเหี่ยว) ขณะที่สิ่งของก็จะได้รับผลเช่นกัน นอกจากนี้ก็มีเหล่าผีที่มาฆ่าผู้คนจนทำให้มนุษย์หลบอยู่ในหลุมหลบภัย และเรื่องราวก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อเอมิลี่ (Amelie) ลูกสาวประธานาธิบดีของอเมริกาถูกจับไป ร้อนถึงแซมที่ต้องไปช่วยพี่สาวต่างแม่ของตนไปพร้อม ๆ กับการเชื่อมต่อระบบ Network ให้กลับมาอีกครั้ง ก่อนที่ความจริงจะเฉลยออกมาจนคนเล่นถึงกับอึ้งไปพร้อมกับแซม ว่าความจริงแล้วเอมิลี่นั้นไม่มีตัวตนอยู่จริง เธอเป็นเหมือนร่างจิตที่แยกมาจากประธานาธิบดีที่เป็นแม่บุญธรรมของแซม และที่เธอหลอกทุกคนว่าถูกจับก็เพื่อหลอกให้แซมเชื่อต่อระบบ Network เพื่อการทำลายโลกใบนี้ทิ้งแบบที่มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต แถมชื่อของเอมีลี่ในภาษาอังกฤษที่เมื่อแยกคำว่า ame ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่าวิญญาณ ส่วน lie ก็แปลว่าโกหกในภาษาอังกฤษ ที่เมื่อรวมกันก็จะได้คำว่า “วิญญาณโกหก” เรียกว่าอึ้งทึ่งงงกันเลยทีเดียว
ร่วมมือกันล้มล้างจักรพรรดิ จากเกม Star Wars The Force Unleashed
การโกหกไม่ว่าจะเป็นการโกหกแบบไหนก็ไม่ดีทั้งนั้น แต่การโกหกจากคนที่เรารักและไว้ใจด้วยชีวิต มันจะยิ่งเป็นความเจ็บปวดชนิดที่เรียกว่าเจ็บจนพูดไม่ออกเลยทีเดียว เช่นเดียวกับเกม ‘Star Wars The Force Unleashed’ ที่เริ่มต้นเรื่องราวของกาเลน มาเรก (Galen Marek) หรือ “Starkiller” ลูกศิษย์ของดาร์ธ เวเดอร์ (Darth Vader) ที่เก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กเพื่อฝึกฝนวิชาให้เขากลาย ‘Sith’ ที่ชั่วร้ายในการตามล่าเหล่า ‘Jedi’ ที่หลงเหลืออยู่ตามดาวต่าง ๆ ในจักรวาล ซึ่งตัวของมาเรกนั้นก็รักเคารพเวเดอร์มาก ๆ จนวันหนึ่งเวเดอร์ได้บอกถึงแผนการของเขาในการโค่นล้มจักรพรรดิ เพราะทางนั้นไม่ทราบว่าเวเดอร์แอบมีลูกศิษย์ ซึ่งมาเรกก็เห็นด้วยในการกระทำของอาจารย์ แต่สุดท้ายเมื่อถึงเวลาลงมือกันจริง ๆ กลับกลายเป็นฝ่ายเวเดอร์เองที่โกหกลูกศิษย์ตัวเอง โดยการสังหารกาเลนต่อหน้าจักรพรรดิ แต่กาเลนก็รอดชีวิตมาได้เขาจึงไปรวบรวมกลุ่มต่อต้านเพี่อมาแก้แค้นอาจารย์และจักรพรรดิไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งสุดท้ายเกมก็เฉลยออกมาว่าสิ่งที่เวเดอร์ทำมาทั้งหมดนั้นคือแผนที่วางเอาไว้กับจักรพรรดิ และการฆ่ากาเลนในตอนนั้นก็เป็นเพียงละครตบตา ที่ต้องการให้มาเรกไปรวบรวมฝ่ายต่อต้านให้มาหาตน เพื่อเป็นการทำลายฝ่ายต่อต้านให้หมดในทีเดียว ซึ่งถ้ามองกันจริง ๆ แผนของเวดอร์นั้นลึกซึ้งมาก แต่ในมุมของการโกหกหักหลังคนที่รักเคารพตนได้ลงคอก็แปลว่าจิตใจเวเดอร์นั้นก็ต้องดำสนิทเหมือนกันถึงทำได้ลงแบบนี้
มีคนมาแทนเธอแล้ว จากเกม The Last Of Us
ปิดท้ายกับ ‘The Last Of Us’ อีกครั้งกับคำโกหกที่ของชายแก่ ที่ต้องการปกป้องจิตใจของตนเองที่เคยแตกสลายให้กลับมา โดยที่ไม่สนใจเลยว่าโลกใบนี้จะเป็นอย่างไร กับตอนจบของเกม ‘The Last Of Us’ ภาคแรก หลังจากที่โจเอล (Joel) ไปช่วยเอลลี่จากโรงพยาบาล เพราะการฝ่าตัดเพื่อหายารักษาโรคซอมบี้หัวเห็ดนั้นต้องแยกสมองของเอลลี่ออกมา ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเธอต้องตายโดยที่ยังไม่ได้บอกลา(ตัวของโจเอลไม่รู้ว่าการผ่าตัดนี้เอลลี่จะต้องตาย) ซึ่งในอดีตนั้นโจเอลเคยสูญเสียลูกสาวเพราะถูกทหารยิงตอนที่การแพร่เชื้อกระจายไปทั่วโลก จนวันหนึ่งชายแก่ได้พบกับเอลลี่ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวตน จึงทำให้เขากลับมาเป็นพ่อคนอีกครั้ง และเมื่อต้องสูญเสียลูกสาวไปอีกครั้ง โจเอลก็เลือกที่จะปกป้องจิตใจตนเองโดยไม่สนใจโลกใบนี้ว่าจะต้องอยู่ในนรกต่อไปรึไม่ ซึ่งเมื่อเอลี่ถามว่าทำไมเธอจึงได้ออกมาจากโรงพยาบาล โจเอลก็โกหกว่าทางนั้นมีคนแบบเอลลี่เยอะแล้ว และการฝ่าตัดก็สร้างยาแก้ไม่ได้ ซึ่งถ้าเราดูจากแววตาเอลลี่(ในรูปด้านบน) จะเห็นเลยว่าเด็กสาวไม่เชื่อแต่ก็พร้อมจะยอมรับคำโกหกนั้นโดยไม่ถามอะไรต่อ จนเกิดเป็นคำถามไปยังคนเล่นเกมว่า ถ้าเป็นคุณจะเลือกทางไหน
ก็จบกันไปแล้วกับการรวมการโกหกต่าง ๆ ในเกมที่คนเล่นรวมถึงตัวละครหลงเชื่อว่าเป็นจริง ซึ่งต้องบอกเลยว่ายังมีอีกหลายเกมที่ใช้เนื้อหาเรื่องราวแบบนี้ แต่เราก็พยายามคัดเรื่องราวการโกหกหลาย ๆ แบบและตรงกับเนื้อหาในบทความมากที่สุดมานำเสนอ และถ้าใครทีเรื่องราวการโกหกของตัวละครใน้เกมที่น่าสนใจเกมไหนก็บอกกันมาได้ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดกัน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการเกมก็ไปติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส