27 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหกเพราะรู้สึกตัวอีกทีเราก็รู้จักเครื่องเกมที่ชื่อว่า ‘PlayStation’ มาแล้วกว่า 27 ปี (ตัวเครื่องวางจำหน่าย 3 ธันวาคม 1994) ซึ่งใครที่เคยเล่นเกมเครื่องนี้ในยุคนั้นคงจะมีช่วงเวลาที่น่าจดจำมากมาย ทั้งเรื่องดีและแย่เกี่ยวกับเครื่องเกมนี้ ซึ่งในสมัยนั้นเครื่อง ‘PlayStation’ ในบ้านเราฮิตมาก ๆ จนกลายเป็นกระแสไปทั้งประเทศ ที่แม้แต่คนที่ไม่เล่นเกมยังต้องไปหามาติดบ้าน และเมื่อเป็นอย่างนั้นเราย้อนดูความทรงจำต่าง ๆ เกี่ยวกับเครื่องเกมนี้กัน โดยเราจะอ้างอิงจากเรื่องราวต่าง ๆ ในบ้านเรามานำเสนอ เพื่อให้คนรุ่นเก่าได้รำลึกอดีตกัน ส่วนเด็กรุ่นใหม่จะได้รู้ว่าในอดีตคนเล่นเกมรุ่นนั้นต้องผ่านเรื่องราวความทรงจำอะไรเกี่ยวกับเครื่องเกมนี้บ้าง มาย้อนเวลาดูไปพร้อมกันเลย
การลุ้นตอนเปิดเครื่อง
เริ่มต้นเรื่องแรกที่เชื่อว่าคนที่เคยเล่นเครื่อง ‘PlayStation 1’ ทุกคนต่างต้องเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว นั่นคือการรอลุ้นว่าจะเปิดเกม ‘PlayStation 1’ ติดไหม เพราะในเมื่อเราเปิดเครื่องเกม ‘PlayStation 1’ หลังใส่แผ่น ตัวเกมจะขึ้นโลโก้ ‘Sony Interactive Entertainment’ บนพื้นสีขาว (รูปด้านบน) ค้างอยู่ราว ๆ 5 วินาที ก่อนจะขึ้นหน้าจอสีดำและมีโลโก้ ‘PlayStation’ ที่หมายความว่าเกมของคุณนั้นพร้อมจะเล่นได้ แต่ถ้าค้างอยู่ที่หน้าสีขาวแบบนั้นแปลว่าเกมจะเปิดไม่ติด ซึ่งถ้าครั้งที่ 2 และ 3 ก็ยังเป็นแบบเดิม คุณต้องลองวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเช็ดแผ่นเกม เป่าลมที่หัวอ่าน ไปจนถึงคว่ำเครื่องเพื่อให้ขึ้นหน้าจอสีดำ (รูปประกอบด้านล่าง) นับเป็นการลุ้นระทึกของคนยุคนั้นที่ประเพณีนี้ก็ยังคงมีอยู่บน ‘PlayStation 2’ ด้วยแต่โอกาสจะเกิดขึ้นน้อยกว่า ‘PlayStation 1’ ที่เรียกว่าลุ้นทุกครั้งที่เปิดเลยทีเดียว
เกมที่เปิดตัวบน PlayStation 1 ที่หลายคนรู้จัก
คราวนี้มาดูเกมที่เปิดตัวครั้งแรกบนเครื่อง ‘PlayStation 1’ ที่หลายคนรู้จักกัน โดยหลายเกมที่วางจำหน่ายครั้งแรกบน ‘PlayStation 1’ หลายเกมก็ยังมีภาคต่อออกมาให้เราได้เล่นตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ประจำเครื่องอย่าง ‘Gran Turismo’ ที่ทำให้เราได้รู้จักเกมแข่งรถที่สมจริงและมีกราฟิกที่สวยงาม ‘Resident Evil’ คงไม่ต้องอธิบายอะไรกันมากกับซีรีส์ในตำนานเกมนี้ ที่แค่เปิดตัวออกมาก็สร้างเสียงตอบรับในความน่ากลัว จนหลายคนในยุคนั้นไม่กล้าเล่น ‘Crash Bandicoot’ เกมหนูซิ่งวิ่งลุยแหลกที่ครั้งหนึ่งมันเคยถูกยกย่องให้เป็นมาสคอตประจำเครื่อง ‘PlayStation 1’ รวมถึงซีรีส์ล่าสมบัติในสุสานอย่าง ‘Tomb Raider’ ก็เริ่มเปิดตัวครั้งแรกบนเครื่องนี้ นอกจากนี้ก็ยังมีเกมต่อสู้อย่าง ‘Tekken’ ที่ก็เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ กับการต่อสู้ที่ดุดันในรูปแบบ 3D ที่น่าตื่นตาตื่นใจในยุคนั้น ซึ่งเกมทั้งหมดทีเรากล่าวมานี้ก็เริ่มต้นเปิดตัวครั้งแรกบน ‘PlayStation 1’ ทั้งสิ้น
ได้รู้จักซีรีส์ Final Fantasy 7 และ Metal Gear Solid ครั้งแรก
ยังคงอยู่ในเรื่องของเกมแต่คราวนี้เราจะมาพูดถึงเกมระดับตำนาน ที่ก่อนจะมาถึง ‘PlayStation 1’ ตัวซีรีส์ก็มีภาคต่อออกมาแล้วมากมายหลายภาค อย่างซีรีส์ ‘Final Fantasy’ กับ ‘Metal Gear’ ที่นักเล่นเกมยุค ‘Famicom’ จนถึง ‘Super Famicom’ ต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ในบ้านเรากลับมีน้อยคนนักที่จะรู้จักสองเกมนี้ ซึ่งเกินครึ่งของคนที่ซื้อและเล่น ‘PlayStation 1’ ในยุคนั้น คือคนที่เพิ่งเข้าวงการเกมหรือบางคนอาจจะเป็นเด็กที่เพิ่งโตมาในยุคนั้น จนเมื่อเกม ‘Final Fantasy 7’ และ ‘Metal Gear Solid’ วางจำหน่าย เราก็ได้รู้จักกับตำนานของสองเกมนี้ จนหลายคนเริ่มต้นความเป็นแฟนของสองซีรีส์นี้มาจากเกมภาคนี้ก็มีอยู่ไม่น้อย ซึ่งในกรณีของ ‘Final Fantasy 7’ ที่ถือเป็นเกมใหม่เลยทำให้ทุกคนทั้งหน้าเก่าและใหม่ค่อย ๆ รู้จักไปพร้อม ๆ กัน แต่สำหรับ ‘Metal Gear Solid’ ใครที่ไม่เคยเล่นภาคก่อนมา พอมาจับภาคนี้คงงงแน่ ๆ ว่าใครคือใคร เพราะเนื้อหามันต่อเนื่องกันจากภาคก่อน แต่คนนักเล่นเกมในยุคนั้นส่วนมากก็ไม่ค่อยสนเนื้อเรื่องอยู่แล้ว ขอแค่เกมมันเล่นสนุกเท่านั้นก็พอ ซึ่งจนถึงตอนนี้สองเกมนี้ก็ยังคงเป็นตำนานมาจนถึงตอนนี้
จุดเริ่มต้นให้เรารู้จักแผ่นแท้เทียม
อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนเพิ่งจะทราบกันเมื่อเริ่มเล่นเกม ‘PlayStation 1’ นั่นคือเรื่องราวของแผ่นแท้และแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ ที่เอาจริง ๆ สิ่งเหล่านี้มันมีมายาวนานตั้งแต่สมัยก่อนเครื่อง ‘Famicom’ อีก แต่หลายคนยังไม่ทราบและคิดว่าสิ่งที่เรามีนั้นมันคือของแท้ จนมาถึงยุค ‘PlayStation 1’ ที่ทาง ‘Sony’ ประเทศไทยเริ่มมีการประกาศขายแผ่นแท้ถูกลิขสิทธิ์ รวมถึงร้านขายเกมหลายร้านในสะพานเหล็กก็มีแผ่นแท้ขาย นั่นจึงทำให้หลายคนทราบว่าสิ่งที่เราเล่นอยู่นั้นคือแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ทำให้หลายคนที่ทราบก็เริ่มเล่นแผ่นแท้กันมากขึ้น ไปพร้อมกับการแซะแอบจิกกัดจากคนอีกฝ่ายที่ซื้อแผ่นแท้ ว่าเป็นคนโง่ที่ซื้อของแพง ทั้งที่ของถูก ๆ ก็เล่นได้เหมือนกัน (มันคือค่านิยมที่คนในยุคนั้นมองกันจริง ๆ) ซึ่งแผ่นแท้ในยุคนั้นจะดูได้ง่าย ๆ เลยคือราคาที่ถูกเพียงหลักสิบ แต่แผ่นแท้ของ ‘PlayStation 1’ จะมีราคาสูงราคาหลักพัน ซึ่งแพงมาก ๆ ในยุคที่ก๋วยเตี๋ยวชามละ 15 บาท และตัวกล่องจะมีขนาดใหญ่และแผ่นมีสีดำ ขณะที่แผ่นละเมิดลิขสิทธิ์จะเป็น CD ธรรมดาและเครื่องเกม ‘PlayStation 1’ ที่จะเล่นแผ่นนั้นได้ก็ต้องทำการดัดแปลงภายใน ซึ่งจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้เราได้ซื้อแผ่นถูกลิขสิทธิ์มากขึ้น จนค่ายเกมหันมาทำเกมซับไทยตอบแทน นับเป็นการเริ่มต้นมาจาก ‘PlayStation 1’ นั่นเอง
การโกงเกมด้วย Action Replay
เมื่อพูดถึงการโกงเกมที่เรียกว่าการเข้าไปเปลี่ยนระบบของเกมเสียใหม่ ที่การโกงนี้ไม่ได้มาจากผู้พัฒนา แต่มาจากคนนอกที่เข้าไปแก้ไขข้อมูลในเกมให้เราสามารถโกงเกมได้ ไม่ว่าจะเป็นสูตรตัวไม่จำกัด ฆ่าไม่ตาย กระสุนไม่มีวันหมด ที่ถ้าเป็นในยุคนี้เราคงสามารถหาตัวโปรแกรมโกงมาใส่ในเกมได้ไม่ยาก แต่ในสมัยนั้นคนที่เล่น ‘PlayStation 1’ ที่จะทำแบบนั้นได้ต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า ‘Action Replay’ ในการโกงเกม ซึ่งเมื่อเราซื้อเจ้าตัว ‘Action Replay’ มาแล้ว เราจะสามารถโกงเกมต่าง ๆ ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งถ้าเกมไหนไม่มีสูตรในเครื่อง ‘Action Replay’ เราก็สามารถใส่รหัสเพิ่มได้ โดยรหัสเหล่านี้จะมีขายตามหนังสือที่มีวางขายมากมายในยุคนั้น ซึ่งเกมยอดนิยมที่ถูกใช้สูตรโกงมากที่สุดก็คือเกม ‘Resident Evil’ และ ‘Final Fantasy 7’ เพราะความยากและไม่อยากเสียเวลา แบบเปิดเกมใส่รหัสทีเดียวค่าประสบการณ์ขึ้นเต็ม โจมตีทีเดียว 9999 ตั้งแต่เริ่มเกม หรือกระสุนไม่หมดตั้งแต่เปิดเกม ซึ่งเอาจริง ๆ มันไม่สนุกเลยกับการทำแบบนั้น
รู้จัก DualShock ก้านควบคุมเกมกับระบบสั่นครั้งแรก
อีกหนึ่งเรื่องราวเล็ก ๆ ที่หลายคนอาจจะไม่ทราบมาก่อน ว่าในช่วงแรกที่เกม ‘PlayStation 1’ วางจำหน่าย ตัวเกมยังเป็น ‘Controller’ แบบเก่าที่เป็นปุ่มกดซึ่งไม่เหมาะแก่การเล่นเกม 3D ที่ต้องควบคุมตัวละครให้วิ่งได้แบบ 360 องศา จนวันที่ 20 พฤศจิกายน 1997 ก็ได้มีการเปิดตัว ‘DualShock Analog Controller’ ขึ้นมา ซึ่งความพิเศษของตัวควบคุมนี้ที่ไม่ใช่แค่ก้าน ‘Analog’ ที่ใช้ควบคุมเกมแบบ 3D แล้ว ตัวควบคุมยังมีระบบสั่นที่สร้างความแปลกใหม่ให้ผู้เล่นในยุคนั้นมาก ๆ เพราะเมื่อเรากดยิงหรือถูกศัตรูโจมตี ตัว ‘Controller’ จะสั้นตามแอ็กชันในเกมได้อย่างสมจริง นับเป็นจุดเริ่มต้นที่หลายคนอาจะลืมไปแล้ว
PocketStation ความล้ำสมัยเกินยุคที่หลายคนจดจำ
อีกหนึ่งความล้ำสมัยที่หลายคนในยุคนั้นอยากมีไว้ในครอบครอง เพราะเห็นรูปในนิตยสารเกมในตอนนั้น แม้จะไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไรได้ก็ตามกับอุปกรณ์เสริมอย่าง ‘PocketStation’ ที่คำโฆษณาในนิตยสารเกมยุคนั้นบอกว่า เราสามารถใช้ ‘PocketStation’ แทน ‘Memory Card’ อุปกรณ์เก็บข้อมูลเกม นอกจากนี้มันยังสามารถดึงตัวเกมต่าง ๆ มาเล่นบน ‘PocketStation’ ได้ด้วย เพราะเจ้าเครื่องนี้จะมีหน้าจอและปุ่มกดเพื่อให้เราควบคุมตัวละครในเกมที่เราชอบ มาเล่นในแบบ ‘Mini Game’ ได้ แถมยังมีเกมรองรับมากมายเป็นร้อยเกม ให้อารมณ์แบบ ‘Tamagotchi’ แต่ตัวเครื่องกลับไม่ค่อยได้รับความนิยม เพราะตัวเกมไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ แต่นั่นก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยมาก ๆ ที่ถ้าใครสนใจก็ลองไปหาซื้อมาสะสมกันได้ ราคาไม่แพงอย่างที่คิด
อุปกรณ์เสริมมากมายให้เลือกเล่น
ถ้าคุณคิดว่าเครื่อง ‘Nintendo Wii’ มีอุปกรณ์เสริมมากมายแล้ว เราต้องย้อนกลับมาดูในยุค ‘PlayStation 1’ ที่ก็มีอุปกรณ์เสริมออกมามากมายไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ‘PlayStation Analog Joystick’ ตัวควบคุมที่เอาไว้เล่นเกมแนวยานยิงแบบต่าง ๆ ที่ให้อารมณ์การเล่นที่สนุกมากกว่ากดแบบปกติ (รูปด้านบน) เครื่อง ‘PocketStation’ ที่เราแนะนำไปแล้ว ‘PlayStation Multitap’ อุปกรณ์ที่เอาไว้ต่อเล่นพร้อมกับเพื่อน ๆ หลายคน อย่างเกม ‘Bomberman Land’, ‘Rampage 2 Universal Tour’ ไปจนถึง ‘Captain Commando’ นอกจากนี้ก็มีอุปกรณ์แบบคอมพิวเตอร์อย่าง ‘PlayStation Mouse’ ที่เอาไว้เล่นเกมที่ใช้การควบคุมแบบ ‘Mouse’ บนคอมพิวเตอร์อย่างเกมจีบสาวอย่าง ‘Tokimeki Memorial’ หรือเกมสยองขวัญอย่าง ‘Clock Tower’ หรือจะเป็นอุปกรณ์แปลก ๆ อย่าง ‘PlayStation Link Cable’ ที่เอาไว้เชื่อมเครื่อง ‘PlayStation 1’ สองเครื่องเข้ากันเพื่อเล่นเกมเดียวกัน และที่ขาดไม่ได้บนเครื่องเกมยุคนี้กับ ‘Controller’ ปืนอย่าง ‘GunCon’ ที่เอาไว้เล่นเกมยิงที่หลายคนชื่นชอบ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นของที่ผลิตออกมาโดย ‘Sony’ เอง ใครที่เป็นสายสะสมไม่ควรพลาด
จุดเริ่มต้น PSone เครื่องรุ่น 2 ที่ขนาดเล็กลง
หนึ่งในโมเดลที่ทาง ‘Sony’ มักทำมาตลอดเมื่อเครื่องเกมของตนเองออกมาได้ระยะหนึ่ง เราก็จะได้เห็นเครื่องเกมตัวใหม่ที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งเชื่อว่าแฟน ๆ ‘PlayStation’ ทุกคนคงจะทราบดีกว่าโมเดลนี้มีมาตั้งแต่สมัย ‘PlayStation 1’ แล้ว กับการลดขนาดเครื่องเกม ‘PlayStation 1’ รุ่นปกติให้มีขนาดเล็กลงในชื่อ ‘PS One’ ที่มาพร้อมกับสเปกเครื่องที่เทียบเท่าตัวเดิม เพื่อใช้ในการพกพาสะดวกสามารถเอาไปเล่นที่ไหนก็ได้ และเมื่อตัวเครื่องมีขนาดเล็กแล้วการพกทีวีไปไหนด้วยก็คงไม่เหมาะ ทาง ‘Sony’ เลยจัดจอทีวีขนาดจิ๋วที่ชื่อ ‘Sony PSone LCD Screen’ พร้อมลำโพงที่สามารถพับจอลงมาได้ ให้เราพกพาเครื่อง ‘PS One’ ไปเล่นได้ทุกที่นับเป็นอะไรที่ล้ำสมัยมาก ๆ ในตอนนั้น
การคว่ำเครื่องในตำนาน
ปิดท้ายกับเรื่องราวที่คนเล่นเครื่อง ‘PlayStation 1’ ทุกคนต้องเคยผ่านกันมาแล้ว กับการคว่ำเครื่องเกมตอนเล่น เมื่อเปิดเกมมาแล้วเป็นจอสีขาวแบบในหัวข้อแรก หรือเล่น ๆ เมื่อถึงฉาก Cutscene ยาว ๆ แถมกดข้ามไม่ได้อย่างเกม ‘Final Fantasy 8’ การคว่ำเครื่องคือหนึ่งในวิธีแก้ที่คนยุคนั้นทำ เพราะการคว่ำเครื่องจะเป็นทำให้หัวอ่านเข้าร่องที่มันควรอยู่ เพราะการใช้งานที่ยาวนาน แถมส่วนที่เป็นร่องวิ่งของหัวอ่านบน ‘PlayStation 1’ ก็ทำจากพลาสติก บวกกับความร้อนของตัวเครื่องที่ทำให้หัวอ่านสึกเร็วจนเราต้องคว่ำเครื่อง ซึ่งนั่นก็คือการแก้ปัญหาชั่วคราว เพราะเมื่อเราใช้ไปไม่นานเครื่องก็จะหมดอายุขัย ซึ่งคนที่ใช้เครื่อง ‘PlayStation 1’ จะทราบเรื่องนี้ดี
เป็นอย่างไรกันบ้างกับความทรงจำหลายเรื่องราว สมัยที่เล่นเครื่อง ‘PlayStation 1’ ที่เราหยิบยกมานำเสนอหวังว่าจะถูกใจกัน โดยเรื่องราวทั้งหมดนั้นเราหยิบเรื่องราวใกล้ตัวในบ้านเรามานำเสนอ เพื่อให้หลายคนที่เคยเล่นในตอนนั้นได้รำลึกอดีตกันอีกครั้ง ส่วนเด็กยุคใหม่ก็ได้รู้ว่าในอดีตเมื่อราว ๆ 20 กว่าปีที่แล้วสมัยที่ลุงป้าน้าอาเขาเล่นเกม ‘PlayStation 1’ ต้องเจอเรื่องราวอะไรมาบ้าง และถ้าขาดเรื่องราวไหนไปก็ขออภัยมาด้วย ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวอะไรในวงการเกม ก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียวรับรองไม่พลาดทุกข่าวสารบทความวงการเกมอย่างแน่นอน
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส