[รีวิวเกม] Trinity Trigger แอ็กชัน RPG แนวไซเคนที่ตกยุคแต่ยังสนุก

Our score

7.5

Trinity Trigger

จุดเด่น

รูปแบบการเล่นเข้าใจง่ายเหมือนเกมในอดีต
ระบบปรับแต่งตัวละครหลากหลาย เล่นกับเพื่อนได้

จุดสังเกต

กราฟิกเหมือนเกมบน PS2
ฉากไม่ซับซ้อนและเดาทางง่ายไปหน่อย

ท่ามกระแสเกม The Legend of Zelda: Tears of the Kingdom ที่มาแรงสุด ๆ และมันอาจจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของเกมแนวแอ็กชัน RPG ผสมกับแนว openworld ได้ลงตัว ทำให้การมาของ Trinity Trigger ดูเงียบ ๆ ไปหน่อย

โดยเกม Trinity Trigger ที่มาแนวแอ็กชัน RPG จากญี่ปุ่นแบบเดิม ๆ และมันไม่ได้ออกครั้งแรกเพราะก่อนหน้านี้มันได้ออกในโซนญี่ปุ่นมาแล้วในปี 2022 แต่เพิ่งจะออกเวอร์ชันภาษาอังกฤษในปี 2023 และจะวางขายบน Nintendo Switch, PS4, PS5 และ PC

ส่วนเรื่องราวของเกมนี้จะเกิดขึ้นในดินแดน Trinitia โลกแฟนตาซีที่อยู่ในยุคกลางที่มีทั้งดาบ, เวทมนตร์ และสัตว์ประหลาดในตำนานเช่นมังกร ที่เรื่องจะเริ่มขึ้นเพราะการต่อสู้ระหว่าง “Gods of Order” และ “Gods of Chaos” เหล่าเทพได้เลือกมนุษย์เพื่อร่วมต่อสู้ในสงคราม และตัวเอกทั้ง 3 ก็เป็นผู้ถูกเลือก ที่มีทั้งหนุ่มน้อย Cyan และนักรบสาว Elise ปิดท้ายกับนักรบสุดแกร่งอย่าง Xantice ที่ต้องร่วมมือกันท่องไปในดินแดนที่เต็มไปอันตราย

กราฟิกเหมือนเกมสมัย PS2

สิ่งที่สร้างความผิดหวังเมื่อแรกเห็นคือกราฟิกในเกมที่ย้อนกลับไปไกลเป็นสิบปี เพราะมันทั้งขาดรายละเอียด ตัวละครก็ออกแบบเชยมาก ฉากในเกมก็ดูธรรมดาแถมยังนำเสนอด้วยมุมกล้องแบบ 2 มิติอีก เรียกว่าหาเหตุผลไม่ได้เลยว่าทำไมผู้สร้างถึงไม่ลงทุนทำภาพในเกมให้ดีกว่านี้ ทำให้หากคุณชอบเกมที่กราฟิกดูดีคงต้องมองข้ามไปก่อน

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ดีงามในการนำเสนอก็พอมีเพราะว่าใน Trinity Trigger มีการลงทุนทำคัตซีนเป็นการ์ตูนอนิเมะคุณภาพสูง และยัดใส่เข้ามาตลอดการเล่นทำให้มันน่าติดตาม แต่มันก็ขัดกับกราฟิกที่ดูย้อนยุคไปหน่อย ส่วนเพลงประกอบทำได้ระดับกลาง ๆ ไม่ได้ดีแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเหมาะกับแนวทางของแอ็กชัน RPG

เกมเพลย์แอ็กชัน RPG สุดเชย

หากจะอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า Trinity Trigger คือเกมแนวอะไรคำตอบก็อาจจะง่าย ๆ คือมันมีรูปแบบเหมือนกับเกม Secret of Mana หรือชื่อโซนญี่ปุ่นที่คนไทยรู้จักกันดีคือ “ตำนานไซเคน” ที่นำเสนอด้วยรูปแบบแอ็กชัน RPG แบบ 2 มิติมุมมองจากด้านบน ที่ 3 ภาคแรกออกบน Super Famicom ทำให้เมื่อแรกสัมผัส Trinity Trigger คือแนวเกมที่นิยมใช้เมื่อ 30 ปีก่อน

ส่วนระบบแอ็กชันดูธรรมดามากเพราะการกดโจมตีใช้ปุ่มเดียวและกดรัว ๆ เพื่อทำคอมโบและมีท่ากลิ้งตัวหลบหลีกศัตรู และยังมีท่าไม้ตายพิเศษที่รุนแรงแต่จะใช้ได้จำกัดต้องเก็บค่าพลังก่อน ฟังดูส่วนนี้อาจจะดูเชยแต่ก็เข้าใจง่ายและเล่นได้ลื่นไหลดี เพราะเกมเพลย์มีความรวดเร็วทำให้มันมีความคล้ายกับแนว Hack and slash อยู่เล็กน้อย และผู้เล่นจะบังคับได้ทั้ง 3 ตัวละครที่กดเปลี่ยนตัวได้ตลอด ส่วนระบบตัวละคร AI ก็ทำได้ดีมีความฉลาดพอตัว

ภารกิจไม่ซับซ้อนแต่ระบบตั้งค่าหลากหลาย

ส่วนการเดินเรื่องจะมีภารกิจหลักที่เราต้องออกสำรวจโลกกว้างที่แบ่งออกเป็นหมู่บ้าน, ฉากที่เป็นด่านหลักที่มีภูมิประเทศที่หลากหลายทั้งป่าทึบที่ดูลึกลับ, ภูเขาหิมะที่หนาวเย็น อีกส่วนคือดันเจี้ยนที่เราต้องตะลุยไปพบกับบอสแล้วต่อสู้เพื่อปลดล็อกไอเทมของเหล่าเทพ ซึ่งส่วนนี้ทำออกมาได้คล้ายกับเกมในอดีตพอสมควร

เพราะปริศนาทำออกมาได้ไม่ซับซ้อนนัก แถมยังมีการบอกว่าต้องไปทำอะไรตรงจุดไหนตลอดการเล่น มองในแง่ดีมันก็ทำเราเล่นได้ลื่นไหลไม่ติดขัด แต่หากคุณอยากเล่นอะไรซับซ้อนแนะนำให้ไปเล่นเกมอื่นดีกว่า ส่วนบอสในเกมทุกตัวจะใช้ระบบเดียวกันคือมันจะมีค่าพลัง 2 แบบคือค่าพลังชีวิตและความอึด เราต้องโจมตีจนพลังความอึดลดลงหมดก่อนถึงจะโจมตีมันเข้าจนพลังชีวิตลดได้ และสิ่งที่ทำให้เกมสนุกท้าทายคือบอสมีความโหดพอตัวหากไม่ฝึกฝนให้ชำนาญรับประกันว่าตายทั้งทีม

ต่อด้วยระบบตั้งค่าอาวุธที่หลากหลาย เพราะจะมีอาวุธให้เลือกใช้มากกว่า 1 ประเภทต่อ 1 ตัวละคร นอกจากนี้ยังมีระบบการใส่ Manatite ไปใส่ในอาวุธและเครื่องป้องกันเพื่อเพิ่มค่าพลังได้ตามใจผู้เล่น เช่นการเพิ่มพลังชีวิต หรืออัปเกรดให้ตัวละครแข็งแกร่งขึ้นเช่นป้องกันพิษของศัตรูได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีงามเพราะทำให้ผู้เล่นมีอะไรให้ทำมากกว่าแค่ต่อสู้ ปิดท้ายกับการใส่โหมดเล่นกับเพื่อนแบบออฟไลน์ที่ทำให้สนุกกับเพื่อน ๆ ได้พร้อมกัน แต่เสียดายที่ไม่สามารถเล่นแบบออนไลน์ได้

เกม Trinity Trigger อาจจะดูเชยไปหากเทียบกับมาตรฐานในยุคนี้ แต่พอเล่นไปสักพักก็เพลินดีเล่นได้ลื่น ไปจนจบเกม เพราะเกมเพลย์สนุกแบบคลาสสิก คล้ายกับตำนานอย่าง Secret of Mana ที่ปรับแต่งได้มากกว่า ใครชอบรูปแบบการเล่นแบบเดิม ๆ ที่เคยเล่นในวัยเด็กจะลองหามาเล่นก็ไม่ถือว่าผิด

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส